A Fistful of Dollars (ดวลปืนมหากาฬ)

แสงตะวันแผดจ้าสาดส่องลงบนหมู่บ้านซาน มิเกลอันเต็มไปด้วยฝุ่นผงในเม็กซิโก ทาบทาแสงอันไม่ปรานีต่อผู้คนที่ดำเนินชีวิตประจำวันท่ามกลางความยากลำบาก ในบรรดาชาวบ้านเหล่านั้น มีบุคคลลึกลับอยู่คนหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันในนาม เอล กริงโก หรือ ชายไร้นาม ในภาษาที่เขาพูดอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าของเขาคล้ายสวมหน้ากากแห่งความเฉยเมย เอล กริงโก มีชื่อเสียงในฐานะหมาป่าเดียวดาย ทหารรับจ้างที่ไม่ขึ้นตรงต่อฝ่ายใดหรือยึดมั่นในหลักการใดๆ การมาถึงของเขาในซาน มิเกล เป็นจุดเริ่มต้นของเกมแมวจับหนูที่ซับซ้อนและอันตราย ศูนย์กลางอำนาจของหมู่บ้านคือสามพี่น้องตระกูล โรโฮ – คาร์ลอส ชายผู้มีสติปัญญาและความเจ้าเล่ห์, รามอน ผู้ร้ายกาจที่สุดในกลุ่ม มีชื่อเสียงเรื่องการยิงปืนที่แม่นยำสามารถโค่นคนจากระยะร้อยก้าว และน้องชายคนสุดท้อง เอสเตบัน ผู้ชื่นชอบความรุนแรงและการโจรกรรม โรโฮให้ความต้องการอย่างยิ่งกับการมาถึงของกองทหารเม็กซิกันที่บรรทุกทองคำจำนวนมากเพื่อใช้ในการจัดซื้ออาวุธใหม่สำหรับกองทัพเม็กซิโก แผนการของพวกเขาคือการซุ่มโจมตีกองทหารและยึดทองคำมาเป็นของตนเอง เพื่อนำพาพวกเขาเข้าใกล้การครอบงำดินแดนนี้ไปอีกขั้น ในขณะที่โรโฮวางแผน ผู้เล่นรายใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้นในคราบของ จอห์น แบ็กซ์เตอร์ นายอำเภอที่ฉ้อโกงและแก่ชราของซาน มิเกล ด้วยความสิ้นหวังที่จะยึดอำนาจและสถานะของตนไว้ แบ็กซ์เตอร์จึงสร้างพันธมิตรที่ไม่มั่นคงกับโรโฮ โดยเสนอทองคำบางส่วนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในการทำให้ชาวเมืองอยู่ใต้อำนาจ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โรโฮไม่รู้ก็คือ แบ็กซ์เตอร์มีแรงจูงใจแอบแฝง เขาตั้งใจจะใช้ทองคำเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของตนเองและรวมอำนาจควบคุมหมู่บ้าน เอล กริงโก ผู้ซึ่งเป็นนักฉวยโอกาสอยู่เสมอ สัมผัสได้ถึงความไม่สงบและความตึงเครียดในอากาศ การมาถึงของทหารเม็กซิกันและทองคำสร้างตลาดที่ร่ำรวยสำหรับผู้ที่เต็มใจเสี่ยง และเอล กริงโก มองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงไม่ควรใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบเหมือนผีและความเจ้าเล่ห์เหมือนงู เอล กริงโก เริ่มต้นหว่านความขัดแย้งระหว่างโรโฮ โดยเล่นงานทั้งสองฝ่ายในขณะที่เขาสวมบทบาทเป็นผู้ให้ข้อมูลที่มีค่าและความลับ คาร์ลอส โรโฮ ผู้มีไหวพริบมากที่สุดในกลุ่ม รับ เอล กริงโก มาอยู่ภายใต้การดูแลของเขา หลงเชื่อเรื่องราวของคนแปลกหน้าและดูเหมือนจะเชื่อมั่นในข้อมูลที่เขาให้ ในขณะเดียวกัน จอห์น แบ็กซ์เตอร์ ก็ใช้ประโยชน์จากความสามารถของคนแปลกหน้าที่สามารถเข้าใกล้โรโฮได้ โดยใช้ เอล กริงโก เป็นสายลับของตนเอง เอล กริงโก สวมบทบาททั้งสองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ้มอย่างเฉยเมยในขณะที่เขาขายข้อมูลเท็จให้กับทั้งโรโฮและนายอำเภอแบ็กซ์เตอร์ ใช้ความเชี่ยวชาญของเขาเพื่อสั่นคลอนสถานการณ์และสร้างความวุ่นวายและการนองเลือดในหมู่บ้าน ในขณะที่เกมแมวจับหนูทวีความรุนแรงขึ้น สถานการณ์ก็ยิ่งทวีความผันผวน การแก้แค้นกลายเป็นพลังที่ครอบงำทุกสิ่ง หล่อเลี้ยงความกระหายในความรุนแรงและการนองเลือด ความเป็นปรปักษ์ถึงแก่ชีวิตทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อมีการสร้างและทำลายพันธมิตรอย่างรวดเร็ว เอล กริงโก ยืนอยู่ตรงใจกลางของกระแสน้ำวน เฝ้าสังเกตอยู่เสมอ คำนวณว่าจะสนับสนุนฝ่ายใดและเมื่อใดที่จะถอนตัวออกจากโคลนตมมรณะ มีการทำนายถึงฉากจบที่นองเลือด การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทีละคนในขณะที่ เอล กริงโก ควบคุมใยแห่งการหลอกลวง กระตุ้นให้เขาไต่เต้าขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการพิพากษาความเป็นความตาย เมื่อฝุ่นจางหายไปในที่สุด ซาน มิเกลก็อยู่ในซากปรักหักพัง และ เอล กริงโก ก็เดินจากไป โดยที่การไม่เปิดเผยตัวตนของเขายังคงอยู่ intact ท่ามกลางการสังหารหมู่ที่เขาหว่านไปทั่ว เอล กริงโก ตัวกระตุ้นที่ไม่เต็มใจสำหรับวงจรมรณะที่นำนรกออกมาเล็กน้อย ตอนนี้สวมชื่อเสียงที่สร้างขึ้นจากฝุ่นดิน ไม่สามารถระบุตัวตนได้ เขากลายเป็นที่รู้จักทั้งในการเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อหาเงินทุนสำหรับการสู้รบทางทหาร และต่อมาวางเฉยสำหรับการเจรจาขั้นสุดท้ายของสงครามเหล่านี้ให้สิ้นสุดลงเมื่อมีอำนาจ แต่อยู่เหนือความลึกลับใดๆ ที่บ่งบอกถึงวาระส่วนตัว