อาชญากรรมอเมริกัน

อาชญากรรมอเมริกัน (An American Crime) เป็นภาพยนตร์ดราม่าอเมริกันปี 2007 กำกับโดย ไซเลอร์ เมเดอร์ สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเมืองชานเมืองของรัฐอินเดียนาในช่วงทศวรรษ 1960 เรื่องราวหมุนรอบ เกอร์ทรูด บานิสเซวสกี รับบทโดย เอลเลน เบอร์สติน แม่บ้านวัยกลางคนอาศัยอยู่กับลูกสาว พอลล่า และหลานๆ ในละแวกบ้านที่น่าเคารพ ภาพยนตร์แนะนำให้เรารู้จักกับ ซิลเวีย ไลเคนส์ เด็กหญิงวัย 16 ปี อาศัยอยู่กับ เจนนี น้องสาวของเธอ ในเมืองแกรี รัฐอินเดียนา พวกเธอได้รับการดูแลจาก พอลล่า ลูกสาวของเกอร์ทรูด เพราะพ่อแม่ของพวกเธอไม่อยู่เป็นเวลาสองสามเดือน ในช่วงแรก เด็กหญิงทั้งสองได้รับการต้อนรับเข้าสู่บ้านของ บานิสเซวสกี แต่เมื่อเวลาผ่านไป พลวัตก็เปลี่ยนไป เกอร์ทรูดชอบ เจนนี แต่เย็นชากับ ซิลเวีย มักจะให้เธอทำงานบ้านและให้นอนบนที่นอนในห้องใต้ดินที่คับแคบ เมื่อความสัมพันธ์ระหว่าง ซิลเวีย และ เกอร์ทรูด แย่ลง พอลล่า ผู้ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่ขี้อายและอ่อนแอ ก็เริ่มเห็นใจชะตากรรมของ ซิลเวีย มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมที่โหดร้ายของแม่ได้ ในขณะเดียวกัน เจนนี ก็เริ่มถอนตัวและโดดเดี่ยวมากขึ้น พยายามที่จะรับมือกับสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย เมื่อเรื่องราวดำเนินไป มันก็ชัดเจนว่า เกอร์ทรูด มีประวัติความโหดร้ายและการทารุณกรรมในอดีต วัยเด็กของเธอเต็มไปด้วยความยากจนและการถูกทอดทิ้ง ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกที่บิดเบี้ยวของความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจ เธอเห็นว่า ซิลเวีย เป็นภาระและเป็นคนที่ถูกทอดทิ้ง คนที่เธอเชื่อว่าสมควรถูกลงโทษสำหรับข้อบกพร่องของเธอ บ้านของ บานิสเซวสกี กลายเป็นความวุ่นวายเมื่อ ซิลเวีย ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ เกอร์ทรูด สนับสนุนให้ลูกๆ ของเธอเข้าร่วม และสถานการณ์ก็กลายเป็นเกมบิดเบี้ยวของการบงการทางจิตใจ เพื่อนบ้านต่างเมินเฉยต่อการทารุณกรรม ติดอยู่ในภาพลวงตาของครอบครัวชานเมืองที่สมบูรณ์แบบ เมื่อเดือนผ่านไป ซิลเวีย ก็เริ่มซูบผอมและอ่อนแรง พยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่ของเธอ เธอเริ่มถอนตัวมากขึ้น ไม่สามารถหลีกหนีจากการทารุณกรรมหรือขอความช่วยเหลือได้ แม้จะมีสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แต่ ซิลเวีย ก็ยังคงมีความหวัง เชื่อว่าวันหนึ่งเธอจะได้รับการปล่อยตัวจากคุกของเธอ ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยฉากจบที่น่าเศร้าและน่าสะเทือนใจ เมื่อชะตากรรมของ ซิลเวีย ถูกปิดตาย ในที่สุด เจ้าหน้าที่ก็ได้รับการแจ้งเตือนถึงการทารุณกรรม แต่มันสายเกินไป เหตุการณ์นี้ทำหน้าที่เป็นข้อคิดเห็นเกี่ยวกับด้านมืดของชีวิตชานเมือง ที่ซึ่งหน้ากากแห่งความน่าเคารพนับถือซ่อนความลับของความโหดร้ายและการถูกทอดทิ้ง ตลอดทั้งเรื่อง เอลเลน เบอร์สติน มอบการแสดงที่ทรงพลัง จับภาพความซับซ้อนและภัยคุกคามของตัวละคร เกอร์ทรูด การแสดงของเธอทำให้ปีศาจมีความเป็นมนุษย์ ทำให้ เกอร์ทรูด เป็นบุคคลที่น่าเห็นใจ แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอย่างมากก็ตาม นักแสดงสมทบก็ประทับใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักแสดงที่เล่นเป็น พอลล่า และ ซิลเวีย ซึ่งตัวละครที่เปราะบางของพวกเขาเป็นหัวใจของเรื่อง อาชญากรรมอเมริกันเป็นการสำรวจสภาพของมนุษย์อย่างทรงพลัง ที่ตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับธรรมชาติของความโหดร้าย การทารุณกรรม และด้านมืดของพฤติกรรมมนุษย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังที่ยั่งยืนของเรื่องจริง ซึ่งยังคงสร้างความตกใจและรบกวนเรา แม้ในส่วนลึกที่สุดของจินตนาการของเราเอง