บิโอนิก้า

พล็อต
บิโอนิก้า (Biónica) คือภาพยนตร์ระทึกขวัญแนววิทยาศาสตร์สัญชาติสเปนที่ออกฉายในปี 2023 กำกับโดยอัลเฟรโด ทาวาเรส ซึ่งสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวชีวิตของ อนา (รับบทโดย เอ็มมา ซัวเรซ) หญิงอัมพาตทั้งสี่ส่วนวัย 32 ปี ที่ต้องนอนติดเตียงมานานหลายปีอันเนื่องมาจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ หลุยส์ (รับบทโดย เอดัวร์โด นอริเอกา) สามีของอนา พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาทางออก เพื่อช่วยให้ภรรยาของเขากลับมาเคลื่อนไหวและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระอีกครั้ง ด้วยความพยายามครั้งสุดท้าย หลุยส์ได้พาอนาไปพบกับ ดร. ฆอร์เฆ ปีเกร์ (รับบทโดย การ์รา เอเลฆัลเด) ศัลยแพทย์หัวก้าวหน้าที่กำลังทดลองการรักษาโรคอัมพาตแนวทางใหม่ที่แหวกแนว ขั้นตอนการรักษาอันล้ำสมัยของ ดร. ปีเกร์ เกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายส่วนที่แข็งแรงของร่างกายผู้ป่วย ซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นแขนขา เข้าไปในบริเวณที่เสียหาย ทว่าในกรณีของอนา แพทย์วางแผนที่จะดำเนินการให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการผสานเทคโนโลยีเสริมทางไซเบอร์เนติกส์ ซึ่งรวมถึงการปลูกถ่ายแขนและมือจากผู้บริจาค แล้วติดตั้งด้วยระบบเครื่องกลไฟฟ้าขนาดเล็ก (MEMS) ที่ช่วยให้แขนขาในส่วนนั้นสามารถเคลื่อนไหวและทำงานได้เหมือนปกติ แม้จะลังเลในตอนแรก อนาก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดด้วยความมุ่งมั่นที่จะกลับมาเคลื่อนไหวและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดูเหมือนว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จ และในไม่ช้า อนาก็สามารถขยับแขนและมือได้ แม้ความรู้สึกจะยังชา ๆ และไม่คุ้นเคยอยู่บ้าง ขณะที่อนาเริ่มฟื้นฟูทักษะการเคลื่อนไหว เธอก็เริ่มสำรวจความสามารถใหม่ ๆ และเริ่มปรับตัวเข้ากับร่างกายใหม่ของเธอ ทว่า ไม่นานเธอก็พบว่าส่วนเสริมทางไซเบอร์เนติกส์นี้ไม่ได้มีขีดจำกัดอยู่แค่เพียงการทำงานของร่างกายเท่านั้น ปรากฏว่าเทคโนโลยี MEMS ยังช่วยให้เธอสามารถเข้าถึงและควบคุมสิ่งรอบข้างได้ด้วยเพียงแค่ความคิดของเธอ อนาค้นพบว่าเธอมีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน เพียงแค่คิดเท่านั้น ความสามารถที่เพิ่งค้นพบนี้ได้จุดประกายทั้งความทึ่งและความไม่สบายใจในตัวเธอ ขณะที่เธอพยายามทำความเข้าใจกับผลกระทบซึ่งมาจากพลังใหม่เหล่านี้ ในขณะเดียวกัน ดร. ปีเกร์และทีมงานกำลังทดลองเกี่ยวกับกิจกรรมในสมองของอนา เพื่อทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยี MEMS ได้เปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทของเธอได้อย่างไร อนาเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการรับรู้ความเป็นจริง ราวกับว่าจิตใจของเธอกำลังหลอมรวมเข้ากับโลกอิเล็กทรอนิกส์รอบตัวเธออย่างช้า ๆ ยิ่งอนาเจาะลึกเข้าไปในความสามารถใหม่ของเธอมากเท่าไร เธอก็เริ่มประสบกับภาพนิมิตแปลกประหลาดและภาวะหลอนทางเสียง เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ากำลังสูญเสียการควบคุมร่างกายและจิตใจของตัวเอง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลุยส์และ ดร. ปีเกร์เริ่มตึงเครียดมากขึ้น เมื่อเธอเริ่มตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริงเบื้องหลังการรักษาของเธอ ความกังวลของอนาทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อพบว่า ดร. ปีเกร์ได้ทำการทดลองกับเธอโดยที่เธอไม่ได้รับรู้หรือยินยอมอย่างเต็มที่ ปรากฏว่า เป้าหมายที่แท้จริงของศัลยแพทย์คือการใช้อนาเป็นหนูทดลองเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ อนาถูกฉีกเป็นสองทาง ระหว่างความปรารถนาในอิสรภาพและความกลัวที่จะสูญเสียความเป็นตัวเองไปกับการเปลี่ยนแปลงทางไซเบอร์เนติกส์ เธอต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเดินหน้าไปในเส้นทางของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียความเป็นมนุษย์ หรือจะเลือกแนวทางการฟื้นฟูแบบดั้งเดิม พร้อมยอมรับข้อจำกัดทางกายภาพของเธอ ท้ายที่สุด การตัดสินใจของอนามีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตของเธอและชีวิตของผู้คนรอบข้าง ขณะที่เธอต้องเผชิญกับความซับซ้อนของความสามารถที่ค้นพบใหม่ เธอจำต้องเผชิญหน้ากับเส้นแบ่งที่พร่าเลือนระหว่างเทคโนโลยีกับความเป็นมนุษย์ รวมถึงราคาที่แท้จริงของความก้าวหน้าในโลกที่ขอบเขตระหว่างเนื้อหนังกับเครื่องจักรแทบจะแยกกันไม่ออก
วิจารณ์
คำแนะนำ
