บลัดดี ซันเดย์
พล็อต
บลัดดี ซันเดย์ (Bloody Sunday) เป็นภาพยนตร์ดรามาอังกฤษปี 2002 ที่บอกเล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1972 เมื่อการเดินขบวนเรียกร้องสิทธิพลเมืองในเมืองเดอร์รี ไอร์แลนด์เหนือ ได้กลายเป็นการสังหารหมู่โดยน้ำมือของทหารอังกฤษ ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการนำเสนอชุดบทสัมภาษณ์และฟุตเทจข่าว เพื่อปูทางสู่เหตุการณ์การเดินขบวนครั้งสำคัญ ขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมืองในไอร์แลนด์เหนือได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประท้วงและเดินขบวนเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น ณ วันที่ 30 มกราคม ผู้คนนับพันจากทั่วภูมิภาคได้มารวมตัวกันเพื่อเดินขบวนไปตามท้องถนนในเดอร์รี เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมและยุติการเลือกปฏิบัติ ขณะที่การเดินขบวนดำเนินไป ความตึงเครียดระหว่างผู้ประท้วงกับทหารอังกฤษก็เพิ่มสูงขึ้น ทหารที่ติดอาวุธและสวมชุดปราบจลาจล มุ่งมั่นที่จะสลายการประท้วงให้ได้ เมื่อฝูงชนเริ่มแยกย้าย ทหารกลุ่มหนึ่งจากกรมทหารพลร่มก็เคลื่อนกำลังเข้ามา กราดยิงใส่ผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า ความตื่นตระหนกเข้าครอบงำผู้คนขณะพยายามวิ่งหาที่กำบัง แต่ก็สายเกินไป จากนั้น ภาพยนตร์ก็จะเปลี่ยนไปสู่ฉากจำลองเหตุการณ์จริงหลายฉาก ที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันแห่งโศกนาฏกรรมนั้น ฉากต่างๆ มีความเข้มข้นและวุ่นวาย ถ่ายทอดความสยองขวัญและความหวาดกลัวของผู้ที่ตกอยู่ในวงล้อมของการยิงได้อย่างสมจริง เราจะเห็นพลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ ถูกกระสุนและกระบองล้มลง เมื่อความรุนแรงลดลง ขอบเขตที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมก็ปรากฏชัดเจน ผู้คน 13 คนต้องเสียชีวิต และอีกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บหรือบอบช้ำทางจิตใจ ภาพยนตร์จบลงด้วยชุดพิธีรำลึกและการประท้วง เพื่อให้ชาวเดอร์รีได้ร่วมกันไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์บลัดดี ซันเดย์ ตลอดทั้งเรื่อง ผู้กำกับนีล จอร์แดน (Neil Jordan) ได้สำรวจประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับสิทธิพลเมือง อัตลักษณ์ประจำชาติ และผลลัพธ์อันเลวร้ายจากความรุนแรงและการกดขี่ การแสดงของนักแสดงทุกคนทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจมส์ เนสบิตต์ (James Nesbitt) และปีเตอร์ บาลลานซ์ (Peter Ballance) ในบทบาทที่โดดเด่น การถ่ายภาพยนตร์ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ถ่ายทอดความงดงามที่แฝงความหม่นหมองของถนนในเดอร์รี และอารมณ์ความรู้สึกดิบๆ ของผู้คนได้เป็นอย่างดี บลัดดี ซันเดย์ (Bloody Sunday) เป็นผลงานที่ทรงพลังและน่าประทับใจที่ถ่ายทอดหนึ่งในเหตุการณ์อันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ มันทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจอันเจ็บปวดถึงผลลัพธ์อันหายนะจากความรุนแรงและการกดขี่ รวมถึงพลังที่ไม่สิ้นสุดของความมานะอดทนและความมุ่งมั่นของมนุษย์ในการเผชิญหน้ากับความยากลำบาก
วิจารณ์
Mabel
The graphic reality of Bloody Sunday leaves a lasting impression, showcasing how a peaceful protest was met with unimaginable violence. It's a harrowing reminder of the struggle for justice and the resilience of those who demand change in the face of tyranny.
Lily
The film vividly portrays the tragic 1972 civil rights march in Northern Ireland, highlighting not just the violence but also the struggle for peace and justice. It's a haunting reminder of how political conflict can ripple through generations.