คลื่นสีคราม
พล็อต
ใน "คลื่นสีคราม" แอนน์ มารี (เคท บอสเวิร์ธ) เป็นนักเล่นกระดานโต้คลื่นมืออาชีพผู้กล้าหาญและมุ่งมั่นที่ใช้ชีวิตตามกฎของตัวเอง เธอใช้เวลาทั้งวันไปกับการโต้คลื่นที่ North Shore ของฮาวาย ซึ่งเธอเป็นที่รู้จักจากฉากผาดโผนที่กล้าหาญและความหลงใหลในการเล่นเซิร์ฟอย่างแน่วแน่ ชีวิตของแอนน์ มารี หมุนรอบกระดานโต้คลื่นและมหาสมุทร เธอตื่นก่อนรุ่งสางทุกวันเพื่อนจับคลื่นที่สมบูรณ์แบบและผลักดันตัวเองไปสู่จุดสูงสุดใหม่ รูมเมทสามคนของเธอ - Penny (Mika Boorem), Luke (Matthew Davis) และ Eden (Karlie Ziegler) - แบ่งปันความรักในการเล่นเซิร์ฟของเธอ แต่พวกเขาสนใจเรื่องปาร์ตี้และการใช้ชีวิตให้เต็มที่มากกว่า เมื่อการแข่งขัน Pipe Masters ใกล้เข้ามา แอนน์ มารี มุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ของการแข่งขันเซิร์ฟ อย่างไรก็ตาม มีอุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่ง: เธอเป็นผู้หญิงในกีฬาที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และไม่มีผู้หญิงคนใดเคยแข่งขันในระดับนี้มาก่อน แม้จะมีความสงสัยและการไม่เชื่อถือจากคนอื่น แอนน์ มารี ก็ไม่ยอมแพ้ เธอฝึกฝนอย่างไม่ลดละ พัฒนาทักษะและสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นใจ ในขณะเดียวกัน เธอก็พบว่าตัวเองตกหลุมรัก Luke ผู้ซึ่งกลายเป็นผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ เมื่อการแข่งขันเข้มข้นขึ้น แอนน์ มารี เผชิญหน้ากับกลุ่มนักเล่นเซิร์ฟชายที่มีความสามารถ รวมถึง Kai (Kevin Sorbo) ที่หยิ่งยโสและขี้คุย แม้จะถูกหลายคนประเมินค่าต่ำไป แอนน์ มารี พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นพลังที่น่าเกรงขาม โต้คลื่นลูกแล้วลูกเล่าด้วยความแม่นยำและทักษะ สุดท้ายแล้ว "คลื่นสีคราม" ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์เกี่ยวกับการเล่นเซิร์ฟเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเพียรพยายาม การค้นพบตนเอง และการเชื่อมั่นในตนเอง ด้วยภาพยนตร์ที่สวยงาม ฉากแอ็คชั่นที่เร้าใจ และนักแสดงนำหญิงที่แข็งแกร่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณติดงอมแงมตั้งแต่ต้นจนจบ
วิจารณ์
Elliot
Great surfing, but lacking in the stunning female leads you might expect.
Oliver
Regarding movies about chasing dreams, nothing beats the original "Blue Crush."
Owen
Those surfing shots are absolutely stunning and so cool! Makes you just itch to get out there!
Heidi
Romance in "Blue Crush" isn't the central focus, but it's there, intertwined with Anne Marie's personal journey and her surfing aspirations. It's a light, sun-kissed kind of romance, reflecting the beachy, carefree vibe of the film. Think stolen moments, shared laughter, and the flutter of a potential connection, rather than a deep, all-consuming love story. It adds a layer of depth to the narrative, but it's definitely playing second fiddle to the waves and Anne Marie's ambition to conquer Pipeline.
Max
Back when they were still finding their footing... then Rodriguez started exploring more interesting roles, and Bosworth embraced more... let's just say "colorful" choices as time went on.