แฟนเทเชีย

แฟนเทเชีย

พล็อต

เมื่อแสงไฟหรี่ลงและเพลงธีม Sorcerer's Apprentice อันเป็นสัญลักษณ์เริ่มบรรเลง ผู้ชมจะถูกนำไปยังโลกที่ดนตรีและแอนิเมชั่นมาบรรจบกันอย่างลงตัว Fantasia ของ Walt Disney ที่ออกฉายในปี 1940 เป็นการทดลองที่แหวกแนวซึ่งผลงานชิ้นเอกดนตรีคลาสสิกถูกนำมาทำให้มีชีวิตขึ้นมาด้วยแอนิเมชั่นและจินตนาการที่น่าทึ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งออกเป็นแปดส่วน โดยแต่ละส่วนนำเสนอดนตรีที่แตกต่างกันซึ่งบรรเลงโดยวง Philadelphia Orchestra ภายใต้การควบคุมของ Leopold Stokowski ส่วนแรกคือ "Toccata and Fugue in D Minor" กำหนดโทนสำหรับภาพยนตร์ที่เหลือด้วยภาพที่สวยงามน่าขนลุกของสิ่งมีชีวิตปีศาจที่พ่อมดฝึกหัด Yen Sid เสกขึ้นมา ต่อมา Mickey Mouse ปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะเด็กฝึกหัดที่น่ารักแต่โชคร้ายที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของพี่เลี้ยงที่มีมนต์ขลังได้ ใน "The Sorcerer's Apprentice" มิกกี้ประสบปัญหาทุกประเภทเมื่อเขาพยายามทำงานบ้านด้วยตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ความผิดพลาดตลก ๆ และความวุ่นวายในที่สุด ส่วนที่โด่งดังที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ "The Dance of the Hours" จากบัลเลต์สวีทของ Amilcare Ponchielli อย่างไม่ต้องสงสัย ลำดับที่น่ารื่นรมย์นี้ทำให้ภาพของภาพยนตร์มีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมีฮิปโปโปเตมัส จระเข้ และช้างเต้นตามจังหวะที่ติดเชื้อในฉากป่าที่เขียวชอุ่ม Fantasia ยังมีภาพที่สวยงามของผลงานชิ้นเอกดนตรีคลาสสิก เช่น Symphony No. 5 ของ Beethoven และ The Rite of Spring ของ Stravinsky ส่วนเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ที่น่าทึ่งของนักสร้างแอนิเมชั่นของ Disney ด้วยการออกแบบที่ซับซ้อนและสีสันสดใสที่ทำให้แต่ละชิ้นมีชีวิตชีวาในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในเวลานั้น ตลอดทั้งเรื่อง Walt Disney เองก็ปรากฏตัวเล็กน้อย รวมถึงการปรากฏตัวในฐานะพ่อมด Yen Sid ตอนจบของภาพยนตร์เป็นการแสดงความเคารพที่กินใจต่อพลังของดนตรีและศิลปะ โดยมีการแสดง Paganini Variations ของ Bach ที่สวยงาม แม้จะได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลายเมื่อออกฉายครั้งแรก แต่ Fantasia ก็กลายเป็นภาพยนตร์คลาสสิกที่ได้รับความนิยม ซึ่งได้รับการยกย่องในด้านการเล่าเรื่องที่เป็นนวัตกรรม แอนิเมชั่นที่น่าทึ่ง และเสน่ห์เหนือกาลเวลา ยังคงดึงดูดผู้ชมทุกวัยด้วยจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และความงามที่แท้จริง ซึ่งเป็นการเสริมสร้างให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่เป็นสัญลักษณ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของ Disney

วิจารณ์