แรมโบ้ นักรบเดนตาย

ในช่วงทศวรรษ 1970 สหรัฐอเมริกาได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ทางสังคมและวัฒนธรรม การประท้วงต่อต้านสงครามในยุคนั้นและผลกระทบที่ยังคงอยู่จากสงครามเวียดนามได้ทิ้งรอยแผลไว้บนประเทศชาติ และทหารของพวกเขา ซึ่งหลายคนตอนนี้เป็นพลเรือน พยายามที่จะกลับคืนสู่สังคม ต้องดิ้นรนเพื่อปรับตัว จอห์น แรมโบ้ อดีตหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้ แรมโบ้เป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีทักษะสูงและได้รับการยกย่องอย่างสูง ได้ออกจากกองทัพหลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่กลับพบว่าตัวเองหลงทางและผิดหวังในโลกของพลเรือน เรื่องราวของแรมโบ้เริ่มต้นในวันที่อากาศแจ่มใสในเมืองเล็ก ๆ แห่งโฮป รัฐวอชิงตัน ซึ่งเขาเป็นบุคคลที่ลึกลับ ถูกชาวเมืองหลีกเลี่ยง เขายังคงถูกหลอกหลอนด้วยความทรงจำเกี่ยวกับสงคราม พยายามที่จะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกและค้นหาจุดมุ่งหมายในชีวิต ขณะที่เขาเข้าไปในกรมตำรวจท้องที่เพื่อรับผลประโยชน์บำนาญ เขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยความเป็นปรปักษ์และการไม่เคารพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทิสเซิล อดีตทหารผ่านศึกเวียดนามที่ผันตัวมาเป็นตำรวจ สังเกตเห็นรูปร่างที่น่าเกรงขามของแรมโบ้และเข้าใจผิดว่าเขาเป็นอดีตนักโทษ นี่เป็นประกายให้เกิดการเผชิญหน้า และแรมโบ้ถูกจับกุมในข้อหาคนจรจัดและถูกนำตัวไปยังเรือนจำท้องที่ ขณะที่แรมโบ้นั่งอยู่ในห้องขัง เขาได้รับการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรมจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้กำลังเกินเหตุและเยาะเย้ยประสบการณ์ของเขาในเวียดนาม เมื่อรู้สึกว่าถูกดูถูกและไม่เคารพ แรมโบ้ก็แหกคุก หนีเข้าไปในป่าใกล้เคียง โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจนในใจ เขาตรงไปยังป่าทึบของเทือกเขา Cascades ที่อยู่ใกล้เคียง ความโกรธที่สูบฉีดอะดรีนาลีนเป็นแรงผลักดันให้เขามุ่งมั่นที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของเขา การไล่ล่าแรมโบ้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังเมื่อนายอำเภอทิสเซิลและกลุ่ม Posse ของเขา ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่และทหารรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ติดตามเขาเข้าไปในป่าลึก ทิสเซิลโกรธจัดกับการดูถูกที่แรมโบ้มอบให้เขา ละเลยความสามารถในการรบของทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาและภูมิประเทศที่ซับซ้อนของป่า เขาเรียกผู้เชี่ยวชาญจากเมืองโดยรอบเพื่อช่วยเหลือในการค้นหา ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ประมาทซึ่งนำไปสู่เกมแมวไล่หนูที่ยาวนานและอันตรายเท่านั้น เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า สาดแสงสีทองไปทั่วป่าทึบ แรมโบ้นำผู้ไล่ล่าของเขาในการไล่ล่าที่น่าตื่นเต้นและแหวกแนว ด้วยทักษะกรีนเบเรต์และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคการเอาชีวิตรอด แรมโบ้หายตัวเข้าไปในเงามืด ติดตามเจ้าหน้าที่อย่างเงียบ ๆ ผ่านป่าทึบและมืดมัว เมื่อวันเปลี่ยนเป็นคืน และด้วยทักษะที่ลับคมจากประสบการณ์การต่อสู้มาหลายปี แรมโบ้วางแผนการซุ่มโจมตีและการตอบโต้ที่ชาญฉลาดต่อศัตรูที่ไม่ยอมลดละของเขา ณ จุดนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าตำรวจในเมืองและชนบทโดยรอบถูกนำโดยผู้ที่ประเมินแรมโบ้ต่ำไป อย่างไรก็ตาม ในที่สุด พวกเขาได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ากลุ่มของทิสเซิล แม้แต่กองทัพสหรัฐฯ ก็ยังถือว่าปฏิบัติการนี้มีความเสี่ยงมากเกินไป ทีมผู้ฝึกสอนทางทหารที่มีสติสัมปชัญญะมากขึ้นถูกส่งไปปราบแรมโบ้ แม้จะมีความหวาดหวั่นในตอนแรก แต่การทารุณกรรมของแรมโบ้จากน้ำมือของนายอำเภอและการตระหนักถึงสถานการณ์ของเขาในภายหลัง ทำให้เขาเห็นอกเห็นใจผู้อยู่อาศัยในเมืองและเจ้าหน้าที่ผู้ไล่ล่าที่น่าสงสารของมันมากขึ้น