ลวงร่าง

คริส วอชิงตัน ช่างภาพหนุ่มแอฟริกันอเมริกัน และโรส อาร์มิเทจ แฟนสาวผิวขาวของเขา เดินทางขึ้นเหนือแม่น้ำฮัดสันในช่วงพลบค่ำ มุ่งหน้าไปยังที่ดินของครอบครัวโรสในชนบท ขณะที่พวกเขาเดินทางไปตามถนนคดเคี้ยว คริสชวนโรสคุยเกี่ยวกับแผนการสุดสัปดาห์ของพวกเขา พยายามวัดความคาดหวังของเธอ โรสดูลังเลที่จะพูดถึงรายละเอียด แต่ยืนยันกับคริสว่าพ่อแม่ของเธอจะไม่ว่าอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา เมื่อเดินทางมาถึงที่ดิน คริสได้รับการต้อนรับจากครอบครัวของโรส ซึ่งดูเหมือนเป็นมิตร แต่ก็แปลกประหลาดเล็กน้อย ดีน อาร์มิเทจ พ่อของโรส เป็นนักจิตวิเคราะห์รุ่นเก่าที่สนใจคริสทันที สอบถามเกี่ยวกับอาชีพของเขาและแสดงความสนใจเป็นการใหญ่ ความวิตกกังวลของคริสเกี่ยวกับการเยี่ยมชมย่านที่มีคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ และเขาคิดว่าพฤติกรรมของครอบครัวโรสเป็นการเอาอกเอาใจมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นการตอบสนองที่ประหม่าต่อความสัมพันธ์ต่างเชื้อชาติของโรส ความตึงเครียดเริ่มต้นคลี่คลายลงเมื่อโรสแนะนำคริสให้รู้จักกับมิสซี อาร์มิเทจ แม่ของเธอ ซึ่งให้ความสนใจกับคริสไม่แพ้กัน ความสนใจของแม่โรสในแง่มุมของแฟนหนุ่มทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น คริสรู้สึกว่าพ่อแม่ของโรสใช้ท่าทีสุภาพเพื่อลดความระแวงของเขา ในขณะที่อาจสงสัยอยู่ในใจเกี่ยวกับ "ความเหมาะสม" ของคริสในฐานะคู่รักของลูกสาวที่รักของพวกเขา คริสพยายามมองโลกในแง่ดี หาเรื่องตลกในสถานการณ์และพยายามเชื่อมต่อกับโรสและครอบครัวของเธอ บรรยากาศยิ่งแปลกประหลาดมากขึ้นเมื่อค่ำคืนผ่านไป โดยพ่อและพ่อเลี้ยงของโรสแนะนำคริสให้รู้จักกับเทศกาลสุดสัปดาห์ รวมถึงไวน์ขาวและการสนทนาเกี่ยวกับดนตรี อย่างไรก็ตาม เมื่อค่ำคืนผ่านไป และยังมีการสนทนาในช่วงสุดสัปดาห์ โรสและคริสเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ในระหว่างงานเลี้ยงนี้ เขาได้เผชิญหน้ากับบุคคลชั้นสูงผิวขาวที่น่าสงสัยและไม่เกี่ยวข้องในนามของโลแกน คิง, ร็อด วิลเลียมส์ และเจเรมี อาร์มิเทจ คนรับใช้ในบ้านที่เขาเริ่มสงสัยตั้งแต่แรก แม้ว่าครอบครัวอาร์มิเทจจะแสดงท่าทีเปิดรับเขา แต่พวกเขาก็ลดทอนความตึงเครียดเหล่านี้ให้เป็นเพียงมารยาททางสังคมมากกว่าอคติทางเชื้อชาติ คริสเริ่มตระหนักอย่างน่าตกใจว่าพฤติกรรมไปในทิศทางเดียวนี้ ซึ่งปราศจากความเท่าเทียมหรือการเชื่อมต่อทางสังคม อาจบ่งบอกถึงแรงจูงใจเบื้องหลัง พ่อแม่ของโรสจะทำถึงขนาดไหนเพื่อแก้ไขความกังวลของพวกเขา? การสนทนาในค่ำคืนต่อมาพลิกผัน ต่อมา เมื่อเทศกาลดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเช้าตรู่ ดีนเชิญคริสไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อกล่าวคำแนะนำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา เมื่อตกลงเข้าร่วมการสนทนา คริสรู้สึกถึงความไม่เต็มใจแปลกๆ และเกือบจะจากไปอีกครั้ง คริสรับรู้ได้ว่ามีสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ปฏิสัมพันธ์อย่างกะทันหันทำให้เกิดความกระวนกระวายเมื่อสถานการณ์เริ่มไหลออกมาซึ่งน่ากลัวและน่ารังเกียจอย่างยิ่ง สถานการณ์นี้ค่อยๆ เผยให้เห็นตัวเองก่อนที่ผู้ชมจะกลับมาดูอีกครั้ง: พวกเขาฝึกฝนลูกผสมของการโคลนนิงและการปลูกถ่ายสมอง โดยที่ผู้สูงอายุผิวขาวได้รับประโยชน์จากการเป็นทาสทางจิตใจและให้ที่อยู่อาศัยแก่ลูกหลานชาวแอฟริกันอเมริกันจำนวนมากที่เกิดจากการผสม ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากพวกเขาใช้ชีวิตผ่านคนผิวดำหลายร้อยคน พวกเขาจึงพัฒนาสังคมที่มีความอดทนสูงในขณะที่พวกเขายังคงยอมรับสมาชิกในครอบครัวที่ก้าวร้าวแต่ให้ความเคารพสูง ซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าระยะเวลาที่คนผิวดำสามารถมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของมนุษย์จำนวนมากได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องหักมุมอีกเรื่อง - ในขณะที่คริสเริ่มสงสัยว่าเขาได้สะดุดกับสิ่งที่เป็นลางร้าย เขาเริ่มค้นพบว่าร็อด ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขาในงานเลี้ยง เป็นหนึ่งในผู้ป่วยของเจ้าภาพ - ผู้ที่หลบหนีจากการรักษาด้วยการสะกดจิตของพวกเขาได้เป็นครั้งแรก จากนั้นในที่สุดเขาก็ปรากฏตัว - โรสเป็นหนึ่งในวิญญาณที่ติดอยู่มากมาย