Let Me In
พล็อต
ในภาพยนตร์ที่น่าขนลุกและกระตุ้นความคิดเรื่อง "Let Me In" เด็กชายขี้อายชื่อโอเว่น (โคดี้ สมิท-แมคฟี) พบความปลอบใจในความสัมพันธ์กับเด็กสาวลึกลับและเหนือโลกชื่อแอบบี้ (โคลอี เกรซ มอเรตซ์) ซึ่งถูกเปิดเผยว่าเป็นแวมไพร์ คนนอกคู่นี้สร้างความผูกพันที่แปลกประหลาดในขณะที่พวกเขาต่อสู้กับความเหงา ความโดดเดี่ยว และความเป็นจริงที่รุนแรงของการเป็นวัยรุ่น แอบบี้มาพร้อมกับผู้ปกครองของเธอ มิสเตอร์เคิร์ช (ริชาร์ด เจนกินส์) อาศัยอยู่อย่างลับๆ ซ่อนตัวจากโลกและอันตราย เธอมีชีวิตอยู่มานานหลายศตวรรษ ติดอยู่ในสภาพความเป็นเด็กชั่วนิรันดร์ ไม่สามารถสัมผัสกับความสุขและความเศร้าของชีวิตมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของเธอกับโอเว่นนำมาซึ่งความหวังและความเข้าใจ ทำให้เธอเผชิญหน้ากับความยากลำบากของการดำรงอยู่ที่เป็นอมตะ เมื่อมิตรภาพของพวกเขาแน่นแฟ้น หนังสำรวจธีมเรื่องวัยรุ่น ลำดับชั้นทางสังคม และการต่อสู้ของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ตัวละครถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเชี่ยวชาญ ด้วยการแสดงที่แตกต่างกันเล็กน้อยซึ่งนำความลึกซึ้งและอารมณ์มาสู่เรื่องราว บรรยากาศที่น่าขนลุกและคำใบ้ที่ละเอียดอ่อนถึงเหตุการณ์เหนือธรรมชาติสร้างความตึงเครียดและความรู้สึกสังหรณ์ใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ถักทอด้วยสัญลักษณ์และอุปมาอุปไมย สำรวจความซับซ้อนของความสัมพันธ์ของมนุษย์และผลที่ตามมาของการแยกตัว เมื่อโอเว่นและแอบบี้จัดการกับความผูกพัน พวกเขาเผชิญหน้ากับด้านมืดของชีวิต รวมถึงการกลั่นแกล้ง ความรุนแรง และการสูญเสีย จุดไคลแม็กซ์ของหนังทั้งสะเทือนใจและกระตุ้นความคิด ทำให้ผู้ชมครุ่นคิดถึงความหมายที่แท้จริงของมิตรภาพ ความตาย และสภาพของมนุษย์ ด้วยฉากบรรยากาศ การแสดงที่น่าจดจำ และการสำรวจการต่อสู้ของวัยรุ่นอย่างลึกซึ้ง "Let Me In" เป็นภาพยนตร์ที่สวยงามน่าขนลุกที่จะทำให้ผู้ชมคิดนานหลังจากที่เครดิตจบลง
วิจารณ์
Diana
Wonder if anyone will ever appreciate you as much as I do, your beauty permeating my very being from this day forward.
Lydia
An endless cycle of reincarnation and eternal love pales in comparison to the sun's light, which, once gone, never returns. Although in the original story, the old man only accompanied Eli for a very long time and revealed signs of past castration while she was changing, I still hope this story tells of a truly unique occurrence amidst the tired repetition of eternal love: two individuals who were originally growing up together, yet she remains eternally twelve. This theme has been explored in many books and movies. The cinematography is exceptionally beautiful.
Dylan
More like *Twilight* for the under-13 set... wonder if that kid ends up as a blood-sucking senior citizen a few decades down the line.
Celeste
The dynamic of taming in this film is reminiscent of "Jenifer" from Masters of Horror Season 1, except Jenifer doesn't need her caretaker to hunt for her. After all, being a vampire who's over 200 years old, how could he genuinely develop real feelings for a human, especially since he's still a little boy himself? This film has strong undertones of a homosexual relationship.
Graham
This is melodrama at its worst. Trivial matters are blown out of proportion, agonizingly drawn out to create unbearable suffering, ultimately leading to overwrought, life-or-death scenarios. The story is excessive, and the filmmaking follows suit.