Mr. Nobody (มิสเตอร์ โนบอดี้)

ในโลกอนาคตดิสโทเปีย โลกแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก ตึกระฟ้าสูงตระหง่านและเทคโนโลยีขั้นสูงได้หล่อหลอมสังคม แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย ปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้น นีโม โนบอดี้ ชายชราวัย 118 ปี พบว่าตัวเองติดอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล กุมความทรงจำในช่วงชีวิตของเขา เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป และเขาได้พบกับใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย - แพทย์หนุ่มในเสื้อคลุมห้องปฏิบัติการสีขาวสะอาด ด้วยความตื่นตระหนก จิตใจของนีโมพยายามที่จะเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับโลกในปี 2092 นั้นขาดๆ หายๆ และพร่ามัว เขาเรียนรู้จากแพทย์ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีชีวิตชีวา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในชีวิตของเขา ด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง นีโมเรียนรู้ว่าเขากลายเป็นคนที่มีอายุยืนยาวในเวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งในตอนแรกเขาพบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อ ความสับสนของเขาแผ่ขยายไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของความเป็นจริงของเขา เพื่อเพิ่มปัญหา นีโมครั้งหนึ่งเคยเป็นนักแสดงชื่อดัง เล่นต่อหน้าฝูงชนที่ขายหมดในยุครุ่งเรืองของเขา อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากชื่อเสียงและโชคลาภที่เขาได้รับ ดูเหมือนว่าเขาจะขาดอดีตของเขาไปมาก ด้วยความปรารถนาอย่างท่วมท้นที่จะเชื่อมโยงกับตัวตนในอดีตของเขา ความคิดของนีโมจึงหวนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่โดดเด่นด้วยการบรรจบกันของกระแสชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความเป็นจริงทางเลือก ด้วยการสัมผัสถึงความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะก้าวไปสู่เส้นทางชีวิตที่แน่นอนในเวลาใดเวลาก่อนที่ความสับสนทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เขาปรารถนาที่จะย้อนกลับไปเพื่อหวนรำลึกถึงช่วงเวลาที่เด็ดขาดของเขา ในบรรดาความทรงจำของเขา ชิ้นส่วนของชีวิตในวัยเยาว์ของนีโมเปิดเผยออกมา รวมถึงการแต่งงานที่ธรรมดาแต่กระตือรือร้นกับเอลิสและลูกๆ ที่น่ารักสามคน โดยที่เขาไม่รู้ตัว การเลือกการแต่งงานที่สำคัญกำลังรอเขาอยู่ ในช่วงเวลาแห่งการดำรงอยู่ นีโมเลือกระหว่างเอลิสกับอนาอีสผู้มีเสน่ห์ดึงดูด ทำให้เขามีความผูกพันกับการหวงแหนเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันเขาไม่สามารถจดจำได้ภายในความตื่นตัวที่ไม่แน่นอนของเขา มีเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา แต่ในช่วงสุดท้ายของช่วงชีวิตก่อนลิขิตของเขา เส้นทางอื่นๆ ก็เปิดออกเหมือนกิ่งก้านที่สามารถเลือกได้อีกทางหนึ่ง จากทางเลือกอื่นๆ นีโมถูกดึงดูดไปยังแต่ละทางแยกในเส้นทางของเขา ตอนนี้เขาถูกฉีกออกจากกันระหว่างความทรงจำเกี่ยวกับความเป็นจริงในชีวิตของเขา และการค้นหาคำตอบในอดีตที่ลึกลับของเขา นีโมถูกบังคับให้กลับไปทบทวนช่วงเวลาที่หายไปทั้งหมดเหล่านั้น ตัวเลือกเหล่านี้กระตุ้นให้เขาเข้าไปสนทนากับตัวตนในวัยรุ่นของเขาต่อหน้าเพื่อนร่วมชีวิตในวัยเด็กของเขาแต่ละคน ในขณะที่เดินทางย้อนเวลากลับไป เขาจะทบทวนในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อเขาไม่เคยแต่งงานกับเอลิสหรืออนาอีส และดำเนินตามเส้นทางบางอย่างที่นีโมจะรู้ในภายหลังว่าไม่เคยมีส่วนทำให้เกิดช่วงเวลาแห่งความสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุด การมาเยือนของเขาเริ่มบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเขาเจาะลึกลงไปในความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่หลากหลายของเขา นีโมเริ่มเผชิญหน้ากับความโหยหาในอดีตในหลากหลายรูปแบบ การแสวงหาเพื่อรักษาความทรงจำทำให้เขาเคลื่อนที่ไปในทั้งสองทิศทางผ่านเส้นทางในอดีตเหล่านี้ แต่ความเข้าใจผลกระทบของเวลาทำให้ความรู้สึกพึงพอใจที่เขาได้รับขณะ回味แต่ละจุดลดลง เมื่อรวมกับความโกลาหลและความสับสน ความเป็นจริงที่ดำเนินต่อไปของนีโมในความวุ่นวายก็เข้าครอบงำเมื่อความวิตกกังวลล้อมรอบเขา และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแต่ละนาที การหวนรำลึกถึงเสียงสะท้อนของเส้นทางที่ตายไปนับไม่ถ้วน ในบางจุด สิ่งนี้จะกำหนดว่าชีวิตที่เป็นอมตะของเขากำลังจะสิ้นสุดลงเมื่ออายุ 118 ปี เมื่อเผชิญหน้ากับเวลาที่เหลืออยู่มากมายมหาศาล ทางเลือกของนีโมก็ชัดเจนขึ้นเมื่อชีวิตถล่มทลายลงรอบตัวเขาในตอนท้าย ผ่านการไตร่ตรอง การสูญเสียเวลาที่สูญเสียไป เหลือเพียงความรักแท้เพียงหนึ่งเดียวในขอบฟ้าสำหรับเขา - เหตุผลที่จะรักซึ่งนำเรื่องราวมาสู่เราตั้งแต่แรก ซึ่งพิสูจน์ว่าแม้จะมีตอนจบที่หลากหลาย ความรักแท้ได้พัฒนาไปไกลกว่ากิ่งก้านที่แตกแขนงของชีวิต โดยให้คำจำกัดความนิรันดร์ของความสมบูรณ์แบบท่ามกลางเขาวงกตที่ลึกลับของความเป็นจริงที่หมุนวนตลอดเวลา