Ossessione: จงรัก...จงใคร่
พล็อต
"Ossessione" ซึ่งมีฉากหลังเป็นอิตาลีหลังสงคราม เป็นเรื่องราวที่แสนเศร้าและทรงพลังเกี่ยวกับความรัก การทรยศ และความสิ้นหวัง ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของจีโน่ ชายพเนจรที่พบว่าตัวเองถูกดึงเข้าไปในความสัมพันธ์นอกสมรสกับโจวันน่า เจ้าของโรงแรมเล็กๆ ที่สวยงามและมีเสน่ห์ จีโน่ แสดงโดยนักแสดงชาวอิตาลีชื่อดัง วิตตอริโอ กัสมันน์ เป็นบุคคลที่มีเสน่ห์แต่มีปัญหาที่หลงทางในชีวิต เขาใช้เวลาแต่ละวันเร่ร่อนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง รับจ้างทำงานแปลกๆ และมีสัมพันธ์สวาทแบบสบายๆ อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาพลิกผันอย่างมากเมื่อเขาได้พบกับโจวันน่า ซึ่งแสดงโดยแอนนา มักนานีที่สวยงามน่าทึ่ง โจวันน่าติดอยู่ในการแต่งงานที่ปราศจากความรักกับสเตฟาโน สามีที่อายุมากกว่าของเธอ ผู้ซึ่งบริหารโรงแรมเล็กๆ ของครอบครัว เธอปรารถนาความตื่นเต้นและความรัก แต่รู้สึกติดอยู่ในกิจวัตรประจำวันที่น่าเบื่อ เมื่อจีโน่มาถึงโรงแรม เธอถูกดึงดูดเข้าหารูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและความมีเสน่ห์ของเขาทันที เมื่อจีโน่และโจวันน่าเริ่มมีความสัมพันธ์กัน พวกเขาวางแผนที่จะกำจัดสเตฟาโน ผู้ซึ่งทารุณกรรมและละเลยมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะหลีกหนีจากชีวิตที่น่าสังเวชและเริ่มต้นใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งขึ้น พวกเขาจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจากการกระทำของพวกเขาและผลกระทบทางศีลธรรมของการตัดสินใจของพวกเขา ตลอดทั้งเรื่อง De Sica สำรวจประเด็นเรื่องความรัก ความปรารถนา และความสิ้นหวังอย่างเชี่ยวชาญ แรงจูงใจของตัวละครมีความซับซ้อนและหลากหลาย ขับเคลื่อนด้วยส่วนผสมของความรัก ความจำเป็นทางเศรษฐกิจ และความสิ้นหวังทางอารมณ์ การใช้สถานที่ถ่ายทำในชนบทอิตาลีที่งดงามช่วยเพิ่มความสมจริงและเป็นของแท้ แม้ว่าจะมีเนื้อหาที่มืดมน แต่โดยพื้นฐานแล้ว "Ossessione" เป็นเรื่องราวความรักที่น่าสลดใจเกี่ยวกับคนสองคนที่บกพร่องซึ่งติดอยู่ในความขัดแย้งส่วนตัวของตนเอง เมื่อเรื่องราวคลี่คลาย จีโน่และโจวันน่าต้องเผชิญกับความเป็นจริงอันโหดร้ายในสถานการณ์ของพวกเขา นำไปสู่บทสรุปที่น่าสะเทือนใจที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกหมดเรี่ยวแรงทางอารมณ์ "Ossessione" ออกฉายในปี 1943 เป็นภาพยนตร์ที่แหวกแนวซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวแบบสัจนิยมใหม่ของอิตาลี มันปูทางสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอิตาลีในอนาคต เช่น เฟเดริโก เฟลลินี และมิเกลันเจโล อันโตนิโอนี ซึ่งจะสร้างภาพยนตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดตลอดกาล ปัจจุบัน "Ossessione" ยังคงเป็นผลงานชิ้นเอกเหนือกาลเวลาของภาพยนตร์โลก การสำรวจธรรมชาติของมนุษย์อย่างทรงพลังที่ยังคงดึงดูดใจผู้ชมด้วยอารมณ์ดิบและความงามทางกวี