เซนต์เจมส์

พล็อต
Saint James เป็นภาพยนตร์ดราม่าอังกฤษปี 1939 ที่กำกับโดย Robert Wyler นำแสดงโดย Henry Haydn รับบทเป็น James ชายหนุ่มที่พยายามหาทิศทางในชีวิต ภาพยนตร์เรื่องนี้เจาะลึกถึงความวุ่นวายภายในและการเปลี่ยนแปลงของ James ในขณะที่เขาต่อสู้กับความซับซ้อนของการเป็นผู้ใหญ่ ภาพยนตร์เปิดตัวด้วย James (Henry Haydn) ชายหนุ่มผู้ผิดหวังในวัยปลายวัยรุ่น ผู้ซึ่งพยายามปลิดชีพตัวเอง เหตุผลของเขาสำหรับการทำเช่นนั้นไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกหลงทาง ขาดการเชื่อมต่อ และไม่มีเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์เฉียดตายนี้เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับ James และเขาเริ่มประเมินเป้าหมายและความทะเยอทะยานในชีวิตของเขาใหม่ วันหนึ่ง ขณะที่เดินเตร่อย่างไม่มีจุดหมายผ่านเมืองริมทะเล James พบกับกลุ่มกะลาสีที่กำลังเตรียมเรือของพวกเขาสำหรับการออกเดินทาง เมื่อมองดูพวกเขาด้วยความหลงใหล เขาถูกความรู้สึกอิสระ มิตรภาพ และการผจญภัยของพวกเขาโจมตีใจ James ตั้งมั่นที่จะเดินตามรอยเท้าของพวกเขาและเริ่มต้นชีวิตแห่งการเดินเรือ ความหลงใหลที่ค้นพบใหม่นี้เป็นตัวกระตุ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ James เนื่องจากเขาเห็นว่าการเดินเรือเป็นการหลีกหนีจากอดีตที่ธรรมดาและมีปัญหาของเขา ขณะที่ James ออกเดินทางเพื่อไล่ตามความฝันของเขา เขาต้องเผชิญกับความท้าทายและความพ่ายแพ้มากมาย ครอบครัวของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ที่ชอบบงการ ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขาที่จะทิ้งชีวิตที่สะดวกสบายและปลอดภัยบนบก แม้ว่าพวกเขาจะคัดค้าน แต่ James ก็ยืนหยัด โดยรู้ว่าเขาต้องหลุดพ้นจากข้อจำกัดของความคาดหวังของครอบครัวเพื่อค้นหาการเรียกร้องที่แท้จริงของเขา เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกแทรกสลับด้วยภาพ回想อดีตที่วุ่นวายของ James ซึ่งเผยให้เห็นสาเหตุที่แท้จริงของการต่อสู้ของเขา เราเห็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของเขากับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อที่ห่างเหินและแม่ที่ควบคุม ซึ่งดูเหมือนจะทำให้เขาหายใจไม่ออกด้วยความรัก ความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านี้กระตุ้นความปรารถนาของ James ที่จะหลบหนีและเริ่มต้นใหม่ การเดินทางของเขาในทะเลกลายเป็นอุปมาสำหรับการแสวงหาอิสรภาพ การค้นพบตนเอง และการไถ่บาป ตลอดทั้งเรื่อง James พบกับตัวละครต่าง ๆ ที่ให้คำแนะนำและสนับสนุน รวมถึง Jim กะลาสีสูงอายุ (แสดงโดย Haydn ในบทบาทคู่) Jim ซึ่งทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและแบบอย่าง สอน James ถึงความซับซ้อนของการเดินเรือและค่านิยมของการอุทิศตน ความเพียร และความภักดี ความผูกพันของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเมื่อ James หมกมุ่นอยู่กับความหลงใหลในการเดินเรือมากขึ้นเรื่อย ๆ การถ่ายภาพยนตร์ใน Saint James เป็นสิ่งที่โดดเด่น จับภาพความงามอันงดงามของทะเลและเมืองริมทะเลที่แปลกตาซึ่งทำหน้าที่เป็นฉากหลังสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ James ภาพขาวดำช่วยเสริมความรู้สึกคิดถึงภาพยนตร์ ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าหมองและการไตร่ตรอง ดนตรีประกอบ ที่แต่งโดย Jack Beaver ก็มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันในการถ่ายทอดอารมณ์และบรรยากาศของแต่ละฉาก ขณะที่ James นำทางไปตามความขึ้น ๆ ลง ๆ ของการเดินทางของเขา เขาต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงพายุร้ายที่ทดสอบความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของเขา แม้จะมีอุปสรรค เขาก็ยังคงทนอยู่ โดยได้รับแรงผลักดันจากความมุ่งมั่นที่จะเป็นกะลาสี ในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์ James บรรลุเป้าหมายของเขา กลายเป็นกะลาสีเต็มตัวและสัมผัสกับความตื่นเต้นของทะเลเปิด บทสรุปของ Saint James นั้นขมขื่น เมื่อ James ซึ่งตอนนี้เป็นกะลาสีที่มั่นใจและมีประสบการณ์ กลับไปยังเมืองริมทะเล เปลี่ยนไปตลอดกาลจากประสบการณ์ของเขา เขาพบการไถ่บาปและความรู้สึกถึงเป้าหมายใหม่ แต่เขาก็ยังคงถูกหลอกหลอนด้วยความทรงจำเกี่ยวกับอดีตที่วุ่นวายของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความหวังและการเริ่มต้นใหม่ ในขณะที่ James ออกเดินทางสู่โลกอนาคตที่สดใส พร้อมด้วยความรู้และสติปัญญาที่เขาได้รับมาตลอดทาง Saint James เป็นภาพที่จับใจและสะเทือนอารมณ์ของการเดินทางของชายหนุ่มสู่การค้นพบตนเองและการไถ่บาป ด้วยการแสดงที่ละเอียดถี่ถ้วนของ Henry Haydn และทิศทางที่รอบคอบของภาพยนตร์ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของจิตวิญญาณที่วุ่นวายไปสู่บุคคลที่มั่นใจและมุ่งมั่น ธีมของความเพียร ความภักดี และความสำคัญของการทำตามความฝันของตนเองยังคงสะท้อนใจผู้ชมในปัจจุบัน
วิจารณ์
คำแนะนำ
