สกูบี้-ดู! กับปริศนาเชฟผี

สกูบี้-ดู! กับปริศนาเชฟผี เริ่มต้นเรื่องราวเมื่อ เฟร็ด, แดฟนี, เวลม่า, แช็กกี้ และสกูบี้ เดินทางมาถึงรีสอร์ทสอนทำอาหารที่ชื่อว่า สวีท ทรีท แมนชั่น ซึ่งเป็นของลุง บ็อบบี้ เฟลย์ ของเฟร็ดนั่นเอง ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ใช้เวลาพักผ่อนไปกับการเรียนรู้ศิลปะการทำอาหารจากลุงบ็อบบี้ผู้มีเสน่ห์ ในขณะที่กำลังจัดข้าวของเข้าห้องพักสุดหรู พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมยั่วน้ำลายของอาหารเลิศรสจากครัวของรีสอร์ท พร้อมกับเสียงกระทะดังมาจากระยะไกล เมื่อแก็งค์เริ่มสำรวจรีสอร์ท พวกเขาพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้ที่มาพักส่วนใหญ่เป็นนักชิมที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการทำอาหารล่าสุดจากลุงบ็อบบี้ เพื่อนๆ ของเฟร็ดต่างตื่นตาตื่นใจกับสถานีทำอาหารที่ประณีต อาหารรสเลิศ และเชฟที่มีความสามารถ แต่แน่นอนว่าแช็กกี้และสกูบี้สนใจบุฟเฟต์ของหวานของรีสอร์ทมากกว่า พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการเพลิดเพลินกับขนมหวานและชิมขนมอบที่อร่อยที่สุด อย่างไรก็ตาม การผจญภัยด้านอาหารของพวกเขาต้องพลิกผันไปสู่ด้านมืด เมื่อมีเงาร่างคล้ายผีเริ่มปรากฏตัวหลอกหลอนรีสอร์ท ตอนแรกแก็งค์คิดว่าเป็นการเล่นตลก แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็รู้ว่าผีมีอยู่จริงและกำลังสร้างความเสียหายให้กับสวีท ทรีท แมนชั่น ผีตนนี้มีรูปร่างสูงตระหง่านสวมหมวกเชฟ เริ่มสร้างความหวาดกลัวให้แขกผู้เข้าพัก ทำให้เกิดความเสียหายและวุ่นวายไปทั่ว เมื่อค่ำคืนดำเนินไป แก็งค์ค้นพบว่าผีไม่ได้มุ่งเป้าไปที่แขกของรีสอร์ทเท่านั้น แต่ยังโจมตีอาหารที่พวกเขาได้รับประทานอีกด้วย ดูเหมือนว่าผีตนนี้จะมีความแค้นต่อโลกแห่งการทำอาหาร และเป็นหน้าที่ของแก็งค์ที่จะต้องเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการหลอกหลอนนี้ เฟร็ดในฐานะหัวหน้าทีมจึงเป็นผู้นำในการสืบสวนเรื่องลึกลับนี้ เวลม่าเริ่มค้นคว้าประวัติของสวีท ทรีท แมนชั่นและค้นพบว่า ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสอนทำอาหารคู่แข่งที่เลิกกิจการไปเมื่อหลายปีก่อน แช็กกี้และสกูบี้เริ่มค้นหาร่องรอยในรีสอร์ท ในขณะที่แดฟนีสัมภาษณ์แขกคนอื่นๆ และเริ่มปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่นำไปสู่การหลอกหลอน เมื่อพวกเขาเจาะลึกลงไปในคดีนี้ พวกเขาก็ได้พบกับใยแห่งความลับและการโกหกที่ซับซ้อน พวกเขาได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนเป็นอย่างที่เห็น และแขกบางคนกำลังซ่อนความลับดำมืดเอาไว้ พวกเขายังค้นพบว่าลุงบ็อบบี้ เฟลย์กำลังซ่อนคู่แข่งที่ฝังรากลึกจากอดีต ซึ่งอาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีของผี ขณะที่แก็งค์สืบสวนต่อไป พวกเขาเริ่มสังเกตว่าผีดูเหมือนจะสนใจอาหารจานเด่นของบ็อบบี้ เฟลย์เป็นพิเศษ พวกเขายังค้นพบว่าทักษะการทำอาหารของผีนั้นเทียบชั้นกับลุงบ็อบบี้ และเห็นได้ชัดว่าผีตนนี้เป็นหัวหน้าเชฟ ในการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย แก็งค์สามารถจับผีขังไว้ในห้องปฏิบัติการของหวานของรีสอร์ทได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาคิดว่าไขปริศนาได้แล้ว พวกเขาก็พบว่าผีไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้ ผีตนนี้เปิดเผยว่าตัวเองเป็นคู่แข่งเก่าของลุงบ็อบบี้ เฟลย์ เชฟระดับปรมาจารย์ที่พยายามแก้แค้นมานานหลายปี ปรากฏว่าผีตนนี้คือ ฟรองซัวส์ เชฟชื่อดังที่เคยเป็นลูกศิษย์ของพ่อของลุงบ็อบบี้ เฟลย์ที่โรงเรียนสอนทำอาหาร ฟรองซัวส์รู้สึกถูกหักหลังเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะมีไอเดียทำอาหารมากเกินไป และเขาก็เคียดแค้นบ็อบบี้ เฟลย์และครอบครัว ด้วยการผสมผสานระหว่างความแค้นและความหลงใหลในชีวิตที่หอมหวาน ฟรองซัวส์จึงสร้างการปลอมตัวที่ชาญฉลาด โดยใช้ทักษะการทำอาหารของเขาเพื่อสร้างภาพลวงตาและสร้างความเสียหายให้กับสวีท ทรีท แมนชั่น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่แก็งค์คิดว่าไขคดีได้แล้ว พวกเขาก็พบว่าฟรองซัวส์ถูกบงการโดยบุคคลที่น่ากลัวยิ่งกว่า ซึ่งใช้เขาเป็นเบี้ยเพื่อควบคุมสวีท ทรีท แมนชั่น บุคคลนี้ถูกเปิดเผยว่าเป็น มาริโอ บาตาลี คู่แข่งของบ็อบบี้ เฟลย์ เชฟผู้ไร้ความปราณี มาริโอใช้ฟรองซัวส์สร้างความวุ่นวายและเบี่ยงเบนความสนใจทุกคนจากเจตนาที่แท้จริงของเขา ซึ่งก็คือการเปิดเผยความลับด้านอาหารของสวีท ทรีท แมนชั่น และขโมยสูตรอาหารไปใช้เอง ในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์ แก็งค์สามารถขัดขวางแผนการของมาริโอและเปิดเผยการมีส่วนร่วมของเขาในการหลอกหลอน ด้วยการไขปริศนา สวีท ทรีท แมนชั่นจึงรอดพ้นจากการถูกทำลาย และแขกผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าพักโดยไม่มีผีมารบกวน เมื่อแก็งค์ออกจากสวีท ทรีท แมนชั่น พวกเขาได้รับการต้อนรับด้วยงานเลี้ยงอาหารแสนอร่อยที่ปรุงโดยลุงบ็อบบี้ เฟลย์เอง ขณะที่พวกเขานั่งลงเพื่อดื่มด่ำกับอาหาร แช็กกี้และสกูบี้มองหน้ากัน และสกูบี้ก็พูดประโยคที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาว่า "สกูบี้-ดูบี้-ดู!" ภาพยนตร์เรื่องนี้คือการผจญภัยที่สนุกสนานอีกครั้งของแก็งค์ อัดแน่นไปด้วยความลึกลับ ความตื่นเต้น และความกระหายในการผจญภัย