The Fault in Our Stars (ดาวบันดาล)

เรื่องย่อของ "The Fault in Our Stars (ดาวบันดาล)": เฮเซล กรีน เด็กสาววัย 16 ปีที่เป็นมะเร็ง ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงามรณะมาตลอดตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ระยะที่ 4 ซึ่งลุกลามไปยังปอดของเธอ แม้ว่าการรักษาที่ล้ำสมัยจะช่วยยื้อชีวิตเธอไว้ได้บ้าง แต่เฮเซลก็ยังคงมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับอาการของเธอ การดำรงอยู่ของเธอเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและความหดหู่ เธอพยายามดิ้นรนเพื่อค้นหาความหมายในโลกที่ดูเหมือนโหดร้ายและไม่แยแส ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเมื่อออกัสตัส วอเตอร์ส วัยรุ่นที่มีเสน่ห์และมีคารมคมคาย ซึ่งสูญเสียขาให้กับมะเร็งกระดูก osteosarcoma ปรากฏตัวในการประชุมกลุ่มสนับสนุนของเฮเซล กัส ซึ่งเป็นชื่อที่เขาต้องการให้เรียก มีบุคลิกที่ดึงดูดใจและมีแนวโน้มที่จะแสดงท่าทางที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะมีข้อสงวนในตอนแรก แต่ทั้งสองก็สร้างความผูกพันที่ไม่น่าจะเป็นไปได้จากประสบการณ์ร่วมกันในการใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็ง ในขณะที่พวกเขาเผชิญกับความขึ้น ๆ ลง ๆ ของวัยรุ่น เฮเซลและกัสเริ่มต้นการเดินทางของการค้นพบตนเอง เผชิญหน้ากับคำถามเชิงอัตถิภาวนิยมที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของพวกเขา พวกเขาถกเถียงกันอย่างมีไหวพริบ อภิปรายเชิงปรัชญา และใช้ไหวพริบที่เสียดสีเพื่อรับมือกับความไร้สาระของมันทั้งหมด ผ่านการสนทนาของพวกเขา เฮเซลเริ่มเผชิญหน้ากับความตายของตัวเองและประเมินลำดับความสำคัญของเธอใหม่ เรื่องราวพลิกผันอย่างน่าเศร้าเมื่อกัสได้พบกับแม่ของเฮเซล ซึ่งกระตือรือร้นที่จะเชื่อมต่อกับลูกสาวของเธอผ่านประสบการณ์ร่วมกัน ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของเฮเซลและกัสกับกันและกันก็เริ่มลึกซึ้งขึ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะมีผลกระทบในวงกว้าง ตลอดทั้งเรื่อง บทภาพยนตร์ของจอห์น กรีน ผสมผสานอารมณ์ขันและความโศกเศร้าได้อย่างเชี่ยวชาญ ทำให้ตัวละครเปล่งประกายในทุกความซับซ้อน The Fault in Our Stars (ดาวบันดาล) เป็นการสำรวจความรัก การสูญเสีย และการใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของตนเองอย่างน่าประทับใจ โดยมีฉากหลังเป็นโลกที่ไม่ยุติธรรมอย่างโหดร้าย