เดอะ แพลตฟอร์ม

เดอะ แพลตฟอร์ม (The Platform) กำกับโดย กัลเดอร์ กัซเตลู-อูร์รูเตีย เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวเสียดสีสังคมดิสโทเปียสเปนปี 2019 ที่เจาะลึกถึงประเด็นการต่อสู้ทางชนชั้น การกดขี่ และผลกระทบของระบบที่ไม่เห็นอกเห็นใจมนุษย์ เรื่องราวเกิดขึ้นในสถานที่แนวตั้งที่ดูลึกลับและปิดสนิท ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "การทดลองการจัดการตนเองในแนวตั้งแบบแยกส่วน" แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกสถานที่แห่งนี้โดยทั่วไป เป็นโครงสร้างแนวตั้งขนาดใหญ่ที่ใช้คุมขังนักโทษที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาต่างๆ ในอดีต โครงสร้างนี้เป็นทรงกระบอก แบ่งออกเป็นชั้นต่างๆ แต่ละชั้นทำหน้าที่เป็นห้องขังสำหรับนักโทษแต่ละประเภท ชั้นล่างสุดซึ่งเป็นที่อยู่ของนักโทษดั้งเดิม มีสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายและยากจนที่สุด โดยมีอาหารเพียงเล็กน้อยซึ่งแทบจะไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ ในทางกลับกัน ชั้นบนสุดเป็นที่อยู่ของนักโทษที่มีอภิสิทธิ์มากที่สุด ซึ่งมีความสุขกับอาหารอันโอชะ ที่พักที่ดีที่สุด และการปฏิบัติที่ดีที่สุดของนักโทษทั้งหมด กลไกที่ควบคุมการกระจายอาหารในสถานที่นี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของอุปกรณ์ เริ่มจากชั้นบนสุด แผ่นอาหารจะถูกส่งไปยังแต่ละส่วนผ่านแพลตฟอร์มที่เคลื่อนที่ลงด้านล่างในอัตราวันละหนึ่งชั้น แม้ว่าคำสั่งนี้จะดูเหมือนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ระบบลำดับชั้นก็ได้รับการพัฒนาขึ้น นักโทษทั้งหมดในชั้นบนจะต้องลงจากระเบียงแนวตั้งเพื่อเข้าถึงแผ่นอาหาร เลือกสิ่งที่พวกเขาต้องการจากนั้นจึงรีบเดินทางกลับขึ้นไปด้านบนก่อนที่แผ่นจะหายไป ในทางกลับกัน นักโทษในชั้นล่างจะปีนขึ้นไปบนแผ่นของพวกเขา และเมื่อทานเสร็จแล้วเท่านั้นจึงจะมีตัวเลือกในการเดินทางกลับขึ้นไป อย่างไรก็ตาม เมื่อแผ่นอาหารมาถึงพื้นที่หนึ่ง จะมีการจำกัดปริมาณที่สามารถนำกลับไปได้ (โดยปกติแล้วจะมีเพียงไม่กี่ภาชนะที่บรรจุอาหารทั้งหมดของนักโทษ) เนื่องจากผู้ที่อยู่ข้างบนมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการเก็บของเหลือ บนพื้นฐานส่วนบุคคล กลไกนี้ก่อให้เกิดทั้งความเห็นอกเห็นใจและความโหดร้าย นักโทษในระดับที่สูงกว่าดูแลน้อยกว่าและปฏิบัติต่อผู้ที่อยู่ต่ำกว่าพวกเขาเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ไร้มนุษยธรรม ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในชั้นล่างมักจะทนทุกข์ทรมานจากความหิวโหย ความสิ้นหวัง หรือแม้แต่ความตายที่อาจเกิดขึ้น นักโทษในชั้นล่างมักจะก่อให้เกิดความรุนแรงและอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากนักโทษแต่ละคนในภาคส่วนล่างสุดแทบจะไม่ได้รับอาหารที่จำเป็น และความอดอยากที่รุนแรงนี้เกือบจะนำไปสู่ความตายในเรือนจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในที่นี้ เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักโทษทุกคนเริ่มหงุดหงิดกับระบบนี้มากขึ้นและคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ตัวอย่างเช่น นักโทษหน้าใหม่ชื่อโกเร็งเป็นนักโทษที่ค่อนข้างดีและฉลาดที่ถูกปล่อยตัวเข้าไปในห้องขังชั้นล่างสุด ในตอนแรก โกเร็งรอดชีวิตมาได้ด้วยการพยายาม 'เรียนรู้' วิธีจัดการชีวิตที่สิ้นหวังในส่วนล่างสุด แต่ทุกอย่างไม่ได้ผลดี พวกเขายังมีนักโทษระดับบนชื่อเปาโล - หลังจากตกลงไปในส่วนล่างแล้วก็มาจบลงที่นั่นหลังจากทำความผิดมากมาย ชีวิตของนักโทษทั้งสองมาบรรจบกันเมื่อโกเร็งและคนอื่นๆ เผชิญหน้ากับความอดอยากอย่างสุดขีด เพื่อต่อสู้กับโศกนาฏกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นของความอดอยากถาวร แผนการที่กล้าหาญจึงพัฒนาไป - และนักโทษในระดับบนสุดไม่ว่าจะก่อกบฏหรือเลือกที่จะแบ่งปันอาหารที่มีค่าในปริมาณพิเศษขึ้นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สำหรับโกเร็งที่พยายามต่อสู้ด้วยความรุนแรงต่อความแข็งแกร่งอย่างมากในการจัดองค์กรชั้นนำ/เรือนจำโดยมีเปาโลเข้าร่วมเท่านั้นจึงจะมีโอกาสรอดชีวิตได้เกือบแน่นอน ที่นี่จะปรากฏเป็นเพียงโอกาสแห่งความหวังสำหรับนักโทษ "ส่วนล่าง" ที่ถูกทารุณกรรมอย่างมาก เมื่อการกบฏของพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ที่ดุเดือดของพวกเขาเริ่มต้นในทันทีหลังจากที่ทั้งสองตัดสินใจครั้งสำคัญเมื่อพวกเขาทั้งหมด (นักโทษจำนวนมากขึ้นเริ่มทำตามแผนที่พวกเขารักอย่างมาก) พบเหตุผลที่รุนแรงให้น่าสงสัยในชะตากรรมของพวกเขาและเชื่อว่าการอยู่รอดสามารถเป็นจริงได้จริง ในการทำเช่นนั้น โกเร็งร่วมกับเปาโลให้แรงผลักดันแก่การต่อต้านซึ่งในที่สุดก็พัฒนาไปในอัตราที่เกือบจะรวดเร็วในการติดตั้ง หากประสบความสำเร็จ จะให้ความหวังแก่ผู้คนระดับ 1 ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ต่ำลงไปในคุก ที่กระตุ้นให้ผู้ติดตามของพวกเขาและพวกเขาร่วมกันปรารถนาที่จะได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่ออิสรภาพและการอยู่รอดในขั้นตอนที่ยิ่งใหญ่กว่าใน "การทดลองการจัดการตนเองในแนวตั้งแบบแยกส่วน" การเข้าร่วมของโกเร็งในการกบฏทำให้นักโทษในระดับกลางของเรือนจำสามารถรวมตัวกันได้ หลังจากมีจำนวนมากและความหวังร่วมกันหลังจากโอกาสในการอยู่รอดของพวกเขาเพิ่มขึ้นแผนจริงโดยไม่ต้องกลัวมากนักเมื่อรวมกัน ความรู้สึกปฏิวัติของพวกเขาในการพยายามให้ได้รับการแจกจ่ายที่เป็นธรรมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความปรารถนาของพวกเขาที่จะท้าทายระบบที่กดขี่