The Impossible (2012)

The Impossible (2012)

พล็อต

The Impossible เป็นภาพยนตร์ดราม่าปี 2012 กำกับโดย เจ.เอ. บาโยนา สร้างจากเรื่องจริงของ มาเรีย และ เฮนรี่ เบ็นเน็ต ครอบครัวชาวอังกฤษที่รอดชีวิตจากสึนามิในมหาสมุทรอินเดียปี 2004 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพยนตร์นำแสดงโดย ยวน แม็คเกรเกอร์ และ นาโอมิ วัตส์ รับบทเป็นพ่อแม่ และ ทอม ฮอลแลนด์ และแซม สปรูเอลล์ รับบทเป็นลูกชายสองคนของพวกเขา เรื่องราวเริ่มต้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2004 เมื่อมาเรีย เฮนรี่ และลูกชายทั้งสาม ลูคัส โธมัส และ ไซม่อน อยู่ระหว่างพักผ่อนช่วงฤดูหนาวในภูเก็ต ประเทศไทย ครอบครัวนี้มีความสนิทสนมกันมาก และลูกชายของพวกเขาก็ยกย่องพ่อแม่เป็นแบบอย่าง ลูกชายคนเล็ก ลูคัส เต็มไปด้วยพลังงานและเรียกร้องความสนใจจากแม่ของเขาอยู่เสมอ ลูกชายสองคนโต โธมัส และ ไซม่อน ดูเงียบขรึมกว่า แต่ก็ยังแสดงความรักต่อครอบครัว ในวันคริสต์มาส ครอบครัวใช้เวลาทั้งวันพักผ่อนริมสระน้ำ จากนั้นออกไปฉลองด้วยอาหารไทยแบบดั้งเดิมในตอนเย็น อย่างไรก็ตาม วันที่แสนสุขของพวกเขากลับต้องจบลง เมื่อเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลครั้งใหญ่ในมหาสมุทรอินเดีย ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเหตุการณ์สึนามิได้อย่างน่าสะพรึงกลัวและรุนแรง เสียงแผ่นดินไหว คลื่นลูกแรก และความเร็วที่น้ำสีดำกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า สร้างความรู้สึกถึงความวุ่นวายและความตื่นตระหนกอย่างแท้จริง ครอบครัวถูกจับโดยไม่ทันตั้งตัว และพวกเขาไม่มีเวลาที่จะตอบสนองหรือหลบหนีจากภัยพิบัติ เมื่อสึนามิซัดเข้า มาเรียพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อช่วยครอบครัวของเธอ ในขณะที่เฮนรี่ซึ่งเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป ไม่สามารถออกจากห้องพักในโรงแรมได้ ครอบครัวถูกกระแสน้ำพัดพาไป และการทำงานของกล้องก็ยิ่งดุเดือดและสับสนมากขึ้น สะท้อนถึงความรุนแรงของประสบการณ์ ในความวุ่นวายที่ตามมา มาเรียพยายามที่จะให้สมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วยกัน แต่พวกเขาก็พลัดพรากจากกันในความหายนะ เธอค้นหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง เรียกชื่อพวกเขาขณะว่ายน้ำผ่านน้ำที่เต็มไปด้วยเศษซากต่างๆ ฉากนี้สะเทือนอารมณ์อย่างมาก เมื่อเธอตระหนักว่าเธออาจจะไม่ได้เห็นคนที่เธอรักอีกเลย เมื่อน้ำลดลง มาเรียและผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ รวมทั้งเด็กชายชื่อใจดี ซึ่งสมาชิกในครอบครัวของเขาก็เสียชีวิตในสึนามิเช่นกัน ต้องเผชิญกับผลกระทบอันร้ายแรง พวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผล สั่นเทิ้มด้วยภาวะอุณหภูมิต่ำ และต้องการความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง เฮนรี่ ซึ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลังเมื่อสึนามิซัดเข้า กำลังพยายามทำใจยอมรับกับการรอดชีวิตของตัวเอง สมาชิกในครอบครัวของเขาหายไปหมด และเขาก็ต้องช่วยเหลือตัวเองในโรงแรมที่พังทลาย ฉากนี้เป็นการถ่ายทอดความสิ้นหวังและความสิ้นหวังของพ่อได้อย่างน่าสะเทือนใจ ในขณะเดียวกัน มาเรียและลูคัส ลูกชายคนเล็กของเธอ ซึ่งรอดชีวิตจากสึนามิเช่นกัน พยายามขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ พวกเขาโซเซไปตามเมืองที่พังยับเยินอย่างหมดอาลัยตายอยาก และต้องการความช่วยเหลือ โธมัสลูกชายอีกคนก็พบว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกทิ้งไว้ให้ได้รับการรักษาพยาบาล ในวันต่อๆ มา เมื่อมาเรียและลูกชายของเธอเริ่มฟื้นตัว พวกเขาได้สัมผัสกับความเมตตาและความกล้าหาญของผู้คนรอบข้าง รวมทั้งช่างภาพหนุ่มชาวสวิส และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ชาวสเปนหลายคนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการช่วยเหลือ The Impossible จบลงด้วยเรื่องราวชัยชนะทางอารมณ์ เมื่อครอบครัวเบ็นเน็ตได้รับความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการอย่างสิ้นหวัง พวกเขาเผชิญกับเส้นทางสู่การฟื้นตัวที่ยาวนานและยากลำบาก แต่พวกเขาทำมันไปด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นและอดทนกับทุกสิ่งทุกอย่าง ภาพยนตร์จบลงด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง โดยเน้นถึงความยืดหยุ่นของจิตวิญญาณมนุษย์และพลังแห่งความรักและความสามัคคีในการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ The Impossible เป็นภาพยนตร์ที่ทรงพลังที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความกล้าหาญและความยืดหยุ่นของผู้คนที่รอดชีวิตจากสึนามิ และเป็นเครื่องบรรณาการแก่ผู้คนที่เสียชีวิตในภัยพิบัติครั้งนี้

The Impossible (2012) screenshot 1
The Impossible (2012) screenshot 2
The Impossible (2012) screenshot 3

วิจารณ์

R

Ryan

There are several touching and tear-jerking moments; I can never resist family-related emotional punches like this. The director definitely has a knack for thrillers; several disaster scenes are visually agonizing, clearly showing how incredibly fragile people are physically, while simultaneously highlighting the strength of the human spirit. People help each other, and ultimately, humans strive for good. The plot feels somewhat contrived, but what an incredibly fortunate family.

ตอบกลับ
6/17/2025, 12:26:59 PM
E

Ella

Okay, here's an English translation of your review, designed to capture the emotional impact and specific details: Three moments brought tears: Ewan's phone call home (seriously, the man can cry!); the reunion of the three brothers (the desperation in their run was heart-wrenching); and the simple, powerful "we are on the beach" (the director's attention to detail really shines through!). Congrats to Naomi Watts on her Oscar nomination!

ตอบกลับ
6/17/2025, 6:56:22 AM
C

Cayden

Disaster, a word of simple strokes, yet profound impact. Watts delivers a performance of horizontal breadth, embodying the sheer scope of the devastation, while McGregor portrays the vertical depth of human resilience and the desperate climb to reunite. Overall, the film carries a distinct Spielbergian touch, reminiscent of his masterful disaster epics.

ตอบกลับ
6/16/2025, 8:57:37 AM
A

Aaliyah

This movie is just too painful, absolutely devastating. Someone next to me couldn't take it after just ten minutes. Naomi Watts' performance is so brutal, some scenes are absolutely horrific; the director is merciless, showing all the gory details. The storyline is thin, but the acting is incredibly moving. Naomi's suffering is palpable, and Ewan McGregor's crying scenes are heartbreaking. The young lead has a bright future, but I can't recommend this film because it's simply too agonizing to watch.

ตอบกลับ
6/12/2025, 8:38:08 AM
A

Aitana

While it may be sentimental and somewhat leans into the mainstream, "The Impossible" is genuinely moving. Knowing it's based on a true story makes you hope for miracles amidst such devastating natural disasters. The film is full of touching details, the actors deliver natural and nuanced performances, and the young actors are also excellent and utterly adorable!

ตอบกลับ
6/11/2025, 3:58:44 AM