This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้)

This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้)

พล็อต

This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้) เป็นภาพยนตร์ดราม่าไอริช-อเมริกันปี 2011 เขียนบทและกำกับโดยเปาโล ซอร์เรนติโน ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ในแถบมิดเวสต์ของอเมริกา ที่ซึ่งนักดนตรีชาวไอริชวัยเกษียณชื่อเชเยนน์ (แสดงโดย ฌอน เพนน์) ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบและถ่อมตนกับภรรยาของเขา แมรี่ (แสดงโดย อีแวน ราเชล วูด) อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเชเยนน์พลิกผันเมื่อเขาค้นพบว่าอดีตอาชญากรสงครามนาซี ชายชื่อชูเบิร์ต (แสดงโดย แฮร์รี ดีน สแตนตัน) ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในสหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่ข้างบ้านของเขา ชีวิตของเชเยนน์เป็นเหมือนภาพลวงตา เขาเป็นร็อคสตาร์ที่เกษียณแล้วที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในอาชีพการงานอย่างที่เขาหวังไว้ ดนตรีของเขาเป็นส่วนสำคัญในตัวตนของเขา แต่ตอนนี้มันได้เลือนหายไปในความไม่ชัดเจน เป็นผลให้เชเยนน์สูญเสียความมุ่งมั่นและทิศทาง และสิ่งเดียวที่ดูเหมือนว่าเขายึดมั่นคือความโกรธและความขมขื่นของเขา เมื่อเชเยนน์ทราบถึงการปรากฏตัวของชูเบิร์ตในชุมชนของเขา เขาก็หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่จะเผชิญหน้ากับอาชญากรสงครามนาซี ภาพยนตร์เรื่องนี้ย้อนกลับไปในวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเราเห็นเชเยนน์ (แสดงโดย ไมเคิล สตูห์ลบาร์ก) ในวัยเด็กที่อาศัยอยู่ในไอร์แลนด์กับครอบครัวของเขา ที่นี่เราได้เห็นชีวิตในวัยเด็กของเชเยนน์ รวมถึงความสัมพันธ์ของเขากับพ่อของเขา ไคลด์ (แสดงโดย ฟรานซิส แมคดอร์แมนด์) ผู้ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านนาซีที่ดุเดือด หลังจากสงคราม ครอบครัวของเชเยนน์อพยพไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเขาตั้งรกรากอยู่ในเมืองเล็กๆ ในแถบมิดเวสต์ อย่างไรก็ตาม ความบอบช้ำจากวัยเด็กของเชเยนน์และผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของพ่อของเขายังคงอยู่กับเขา และเขาก็ถูกครอบงำด้วยความปรารถนาที่จะแก้แค้น เมื่อเชเยนน์ค้นพบว่าชูเบิร์ต ชายที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามที่โหดร้าย ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ เขาเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่จะแก้แค้นชายที่เขาเชื่อว่าทำผิดกับครอบครัวของเขาในที่สุด เมื่อเชเยนน์เริ่มเผชิญหน้ากับชูเบิร์ต ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เราได้เรียนรู้ว่าชูเบิร์ตใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในสหรัฐอเมริกา โดยปรับตัวให้เข้ากับบุคลิกของข้าราชการบำนาญที่เงียบสงบและไม่โอ้อวด อย่างไรก็ตาม เมื่อเชเยนน์ใกล้เข้ามา หน้ากากของชูเบิร์ตก็เริ่มหลุดลุ่ย และขอบเขตที่แท้จริงของอาชญากรรมของเขาก็ถูกเปิดเผย ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นการสำรวจที่กระตุ้นความคิดเกี่ยวกับผลกระทบของสงคราม ความบอบช้ำ และการแก้แค้น การรณรงค์ของเชเยนน์ไม่ได้เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับชูเบิร์ตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับปีศาจในอดีตของเขาเองด้วย ขณะที่เขาเจาะลึกเข้าไปในความลึกลับรอบตัวชูเบิร์ต เขาต้องยอมรับตัวตนของเขาเองและทางเลือกที่เขาได้ทำในชีวิตของเขา ตลอดทั้งเรื่อง เชเยนน์ถูกหลอกหลอนด้วยนิมิตของพ่อของเขาและความบอบช้ำที่พวกเขาได้รับในช่วงสงคราม เราเห็นภาพการเคลื่อนไหวของไคลด์และผลกระทบที่มีต่อครอบครัวของเขา รวมถึงความเสียหายทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับเชเยนน์และชุมชนของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับธรรมชาติของการแก้แค้น ผลกระทบของการบาดเจ็บ และความยากลำบากในการหาข้อยุติ เมื่อการแสวงหาการแก้แค้นของเชเยนน์เริ่มหมกมุ่นมากขึ้น เส้นแบ่งระหว่างความเป็นจริงกับจินตนาการก็เริ่มเบลอ ความเร็วของภาพยนตร์เพิ่มขึ้น และน้ำเสียงก็เริ่มคลั่งมากขึ้น เราเห็นพฤติกรรมของเชเยนน์เริ่มผิดปกติมากขึ้น เมื่อเขาหมกมุ่นอยู่กับชูเบิร์ตและอาชญากรรมของเขามากขึ้น ท้ายที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างไปสู่บทสรุปที่ขมขื่น เชเยนน์เผชิญหน้ากับชูเบิร์ตในที่สุด แต่ผลลัพธ์ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวัง แทนที่จะเป็นการแก้แค้นและข้อยุติที่เขาแสวงหา เชเยนน์กลับเผชิญกับการสำรวจสภาพของมนุษย์ที่ซับซ้อนและมีแง่มุมที่แตกต่างกัน ในตอนท้าย เชเยนน์ถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับความเป็นจริงของการตายของเขาเองและความไม่ถาวรของทุกสิ่ง This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้) เป็นภาพยนตร์ที่ทรงพลังและกระตุ้นความคิดที่สำรวจความซับซ้อนของธรรมชาติของมนุษย์ ผ่านเรื่องราวของเชเยนน์ เราได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความบอบช้ำและผลกระทบของสงคราม รวมถึงความยากลำบากในการค้นหาข้อยุติและการให้อภัย ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอการแสดงที่โดดเด่นจาก ฌอน เพนน์ ผู้ซึ่งนำความลึกซึ้งและไหวพริบมาสู่บทบาทของเชเยนน์ ด้วยภาพที่โดดเด่นและธีมเชิงปรัชญา This Must Be the Place เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้ผู้ชมหวนคิดถึงธรรมชาติของมนุษย์ไปอีกนานหลังจากที่เครดิตขึ้น

This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้) screenshot 1
This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้) screenshot 2
This Must Be the Place (ชีวิตต้องเป็นแบบนี้) screenshot 3

วิจารณ์

Z

Zion

Hengyang - Xiangtan - Loudi - Yiyang - Yueyang - Zhangjiajie - Xiangxi - Chenzhou - Huaihua - Shaoyang - Yongzhou - Zhuzhou - Changde - Changsha 🔚 On September 24th, '23, I was treated to a late-night culinary exposé by Boss Wan, who raved about Yiyang Taojiang's unique 'Five Delicacies' feast, including: Light tea, served alongside an impressive twenty-four small dishes: six meat, six vegetable, six fruit, and six specialty items. Sweet tea; 'Butterflies Floating Over the River,' a charmingly named local delicacy; and Lanxi beef offal. Lei Cha (Hakka ground tea); Yiyang Malatang (spicy hot pot); truly embodying the rich ambiance of 'Wharf Culture'. Flour tea; Qingxi Village's signature 'Three Fresh Basin with Scooping Shrimp' – a dish where fresh shrimp are cooked directly in a hot basin; all taken in near Zhou Libo's Former Residence, the inspiration for his renowned novel 'Great Changes in a Mountain Village'. For tea, there was the unique steeped 'Salty Ginger, Sesame, and Bean Tea'. And finally, an exquisite all-bamboo shoot banquet – because Taojiang bamboo shoots are truly a world-class delicacy! (Looks like someone's been enjoying them since childhood but never actually dug them up themselves! 😂)

ตอบกลับ
7/17/2025, 5:50:16 AM
P

Paisley

Hunan TV is truly unmatched in promoting its local culture, absolutely brilliant!

ตอบกลับ
6/25/2025, 12:27:14 PM