Avicii - ผมชื่อทิม

Avicii - ผมชื่อทิม

พล็อต

ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง "Avicii - ผมชื่อทิม" นำเสนอเรื่องราวชีวิตอันน่าประทับใจของ ทิม แบร์กลิง หรือที่รู้จักกันในนาม Avicii ดีเจ, นักดนตรี และโปรดิวเซอร์ชาวสวีเดน ผู้ซึ่งได้ทิ้งร่องรอยอันลบเลือนไม่ได้ไว้ในวงการเพลงแดนซ์อิเล็กทรอนิกส์ (EDM) ผ่านบทสัมภาษณ์ส่วนตัว เรื่องเล่าที่ใกล้ชิด และข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ ภาพยนตร์เรื่องนี้เจาะลึกเข้าไปในความซับซ้อนของชีวิต Avicii เผยให้เห็นทั้งช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และความยากลำบากที่นำพาให้เขากลายเป็นหนึ่งในศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุค ทิม แบร์กลิง เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2532 ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เขาเริ่มต้นเส้นทางดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย การเติบโตในครอบครัวนักดนตรีทำให้เขาได้สัมผัสกับแนวดนตรีที่หลากหลาย ทั้งคลาสสิก ป๊อป และอิเล็กทรอนิกส์ บิดาของแบร์กลิงซึ่งเป็นศัลยแพทย์ สนับสนุนความคลั่งไคล้ในดนตรีของบุตรชาย แต่ความกังวลของมารดาเกี่ยวกับอาชีพที่ไม่แน่นอนในวงการดนตรี ทำให้เขาหันมาให้ความสนใจกับการศึกษาทฤษฎีดนตรี ซึ่งได้วางรากฐานความเข้าใจของแบร์กลิงในด้านการผลิตและการประพันธ์ดนตรี ทักษะที่ในที่สุดก็ผลักดันให้เขาก้าวไปสู่ดวงดาวแห่งความสำเร็จ ในวัยรุ่น แบร์กลิงเริ่มสร้างสรรค์ดนตรีภายใต้นามแฝง 'ทิม แบร์ก' โดยปล่อยซิงเกิลเปิดตัว "Call on Me" ในปี 2552 แม้จะประสบความสำเร็จในระดับปานกลาง แต่ชื่อเสียงของเขาก็เริ่มโด่งดังขึ้นอย่างแท้จริงจากเพลงฮิตในปี 2553 อย่าง "Levels" คุณภาพของเพลงที่ให้ความรู้สึกสุขุมและไพเราะโดนใจแฟนเพลงทั่วโลก ทำให้แบร์กลิงเป็นที่รู้จักในวงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์ การเผยแพร่ผลงานต่อๆ มาของเขา รวมถึง "Fade Into the Night" และ "Silhouettes" ได้ตอกย้ำตำแหน่งของเขาในฐานะศิลปินดาวรุ่ง จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของแบร์กลิงมาถึงในปี 2554 เมื่อเขาเริ่มผลิตเพลงภายใต้ชื่อ Avicii ซิงเกิลแจ้งเกิดของเขา "Pseudo" แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นในการสร้างสรรค์ท่วงทำนองที่ติดหูและจังหวะที่เร้าใจ อย่างไรก็ตาม อัลบั้ม "True" ในปี 2556 คือสิ่งที่ส่งให้เขาก้าวขึ้นสู่เวทีโลก อัลบั้มนี้มีเพลงฮิตอย่าง "Wake Me Up" และ "Hey Brother" การผสมผสานระหว่างท่วงทำนองที่มีแรงบันดาลใจจากเพลงโฟล์กและการผลิตเพลงอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ได้จุดประกายบทใหม่ในอาชีพของแบร์กลิง ดนตรีของเขาก้าวข้ามขีดจำกัดของวงการ EDM เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังที่กว้างขึ้น และเปิดทางสำหรับการทำงานร่วมกับศิลปินชื่อดัง อาทิ David Guetta และ Coldplay นอกเหนือจากความสำเร็จทางดนตรี ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสำรวจความขัดแย้งส่วนตัวและความรู้สึกที่หล่อเลี้ยงกระบวนการสร้างสรรค์ของแบร์กลิง ความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ มีบทบาทสำคัญในชีวิตของเขา แม้พวกเขาจะสนับสนุนความพยายามทางดนตรีของเขา แต่แบร์กลิงมักรู้สึกกดดันที่จะต้องทำตามความคาดหวังของพวกเขา ภาระความรับผิดชอบนี้ พร้อมกับตารางทัวร์ที่หนักหน่วง ทำให้เกิดภาวะหมดไฟและความไม่มั่นใจในตนเอง การที่แบร์กลิงเปิดเผยถึงความลำบากของเขาได้โดนใจแฟนๆ ซึ่งมองเห็นว่าเขาเป็นบุคคลที่เข้าถึงได้และเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง หนึ่งในแง่มุมที่โดดเด่นที่สุดของ "Avicii - ผมชื่อทิม" คือการสำรวจจิตวิญญาณและมุมมองทางปรัชญาของแบร์กลิง แม้จะเติบโตในครอบครัวคริสเตียนที่ไม่ได้เคร่งศาสนา จิตวิญญาณของแบร์กลิงก็พัฒนาไปตามกาลเวลาในขณะที่เขาต้องเผชิญกับคำถามเชิงปรัชญาเกี่ยวกับความเป็นอยู่และความหมายของชีวิต การสำรวจภายในจิตใจนี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ดนตรีของเขา นำไปสู่การสร้างเพลงอย่าง "The Nights" ซึ่งสำรวจธีมของความรัก ความสูญเสีย และการค้นพบตนเอง ความสนใจของแบร์กลิงในจิตวิญญาณตะวันออกและการฝึกสติยังมีอิทธิพลต่อมุมมองของเขาที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาตนเอง การเล่าเรื่องของสารคดีนี้ผสมผสานเข้ากับการสัมภาษณ์ วิดีโอฟุตเทจ และภาพถ่ายจากชีวิตส่วนตัวของแบร์กลิง ทำให้เห็นชีวิตประจำวันของเขาได้อย่างใกล้ชิด แฟนๆ จะได้รู้จักกับเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน และคนใกล้ชิดที่ให้การสนับสนุนเขา รวมถึงผู้จัดการส่วนตัว อารัช พัวร์นูรี (Ash Pournouri) และอดีตแฟนสาว เอลลี กูลดิง (Ellie Goulding) ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเขาในการกุศล โดยเฉพาะการสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ น่าเศร้าที่การเดินทางของ Avicii จบลงเมื่อเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 ด้วยวัย 28 ปี การจากไปของเขาสร้างความตกตะลึงไปทั่ววงการดนตรี โดยมีแรงอาลัยหลั่งไหลมาจากศิลปินและแฟนเพลงทั่วโลก "Avicii - ผมชื่อทิม" เป็นการแสดงความรำลึกถึงชีวิตของเขาได้อย่างลึกซึ้งและกระตุ้นความคิด ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองผลงานทางศิลปะของเขา แต่ยังรวมถึงความเป็นมนุษย์และความแข็งแกร่งของเขาด้วย ท้ายที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอภาพที่ชัดเจนของศิลปินผู้เปี่ยมพรสวรรค์ เผยให้เห็นความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขา แทนที่จะเป็นการหวนรำลึกถึงความสำเร็จในอดีต "Avicii - ผมชื่อทิม" นำเสนอการสำรวจอย่างละเอียดถึงความทุกข์ระทม ความไม่มั่นคง และความหวังของแบร์กลิง ทำให้เข้าใจลึกซึ้งถึงสิ่งที่ผลักดันให้เขาสร้างสรรค์เพลงที่สัมผัสหัวใจผู้คนนับล้าน เพื่อเป็นการรำลึกถึงความทรงจำของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ทิ้งความประทับใจที่ยั่งยืน และตอกย้ำสถานะของ Avicii ในฐานะสัญลักษณ์ที่แท้จริงของคนรุ่นเขา

Avicii - ผมชื่อทิม screenshot 1
Avicii - ผมชื่อทิม screenshot 2
Avicii - ผมชื่อทิม screenshot 3

วิจารณ์