มือปืนกระต่ายขาเดียว

มือปืนกระต่ายขาเดียว

พล็อต

Blue Streak ภาพยนตร์ตลกที่ออกฉายในปี 1999 เล่าเรื่องราวของไมลส์ โลแกน (รับบทโดย มาร์ติน ลอว์เรนซ์) ขโมยอัญมณีผู้มากความสามารถและมีเสน่ห์ ซึ่งสร้างชื่อให้ตัวเองในโลกแห่งการโจรกรรมที่มีเดิมพันสูง ความสำเร็จล่าสุดของโลแกน เพชรเม็ดงาม คือมงกุฎเพชรแห่งอาชีพอันรุ่งโรจน์ของเขา อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของเขามีเพียงช่วงสั้นๆ เมื่อเขาถูกตำรวจจับและถูกตัดสินจำคุกสองปี เมื่อได้รับการปล่อยตัว โลแกนได้เรียนรู้ความจริงที่น่าตกใจ: อาคารที่เขาขโมยเพชรนั้นกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะที่เกิดการปล้น และเขาซ่อนอัญมณีไว้ในหินฐานรากของอาคารแห่งหนึ่ง ด้วยความตื่นตระหนก โลแกนพยายามอย่างบ้าคลั่งที่จะวางแผนเพื่อนำรางวัลของเขากลับคืนมา แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าความพยายามของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จมากนักหากเขาพยายามที่จะหลบหนีออกจากสถานีตำรวจ โลแกนไม่ย่อท้อและวางแผนที่จะให้เขาเข้าถึงอาคารและเพชรได้ โลแกนวางแผนการปลอมตัว โดยสวมเครื่องแบบตำรวจและปลอมตัวเป็นนักสืบ LAPD ซึ่งเขาเชื่อว่าจะทำให้เขามีโอกาสเดินเข้าไปในสถานีตำรวจได้อย่างง่ายดายและนำสมบัติที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา วิธีเดียวที่จะรับประกันความสำเร็จของเขาได้คือการที่โลแกนจะต้องเล่นบทบาทใหม่ของเขาให้สมบูรณ์แบบ หลีกเลี่ยงอุปสรรคที่อาจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา หลังจากแปลงโฉมอย่างรวดเร็ว โลแกนก็เดินเข้าไปในสถานีตำรวจอย่างมั่นใจ แนะนำตัวเองให้กับเพื่อนร่วมงานใหม่ของเขาในชื่อ 'เบลก' และได้รับความไว้วางใจจากพวกเขาอย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน โลแกนต้องพึ่งพาเสน่ห์และทักษะความเป็นผู้นำตามธรรมชาติของเขาเพื่อนำทางโลกใหม่นี้ โดยมักจะพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่เขาต้องใช้ไหวพริบในการคิดและกอบกู้สถานการณ์ คู่หูใหม่ของโลแกน ดอนแนร์ด (ลุค วิลสัน) และคาร์ลสัน (ปีเตอร์ กรีน) ต่างก็ไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาและรับเขาเข้ามา โดยไม่รู้ถึงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นหากไมลส์ โลแกนตัวจริงถูกเปิดเผย การเปลี่ยนแปลงของโลแกนได้นำพาเขาไปสู่สถานการณ์ที่ไร้สาระและคาดเดาไม่ได้มากมาย ในขณะที่เขาได้นำทางบทบาทใหม่ของเขาใน LAPD เขากลับก่อให้เกิดความวุ่นวายมากกว่าความสามัคคี โดยมักจะปะทะกับนักพูดที่แข็งกร้าวประจำสถานี แต่ก็ได้รับพันธมิตรที่ไม่คาดฝันในการค้นหาเพชรของเขา เมื่อเวลาผ่านไป โลแกนพบว่าตัวเองผูกพันกับตัวตนใหม่ของเขามากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเห็นประโยชน์ของการเป็นคนที่ 'มีเกียรติ' ความชื่นชมและความเคารพของเพื่อนร่วมงานที่มีต่อความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ที่เขาแสร้งทำ ทำให้โลแกนรู้สึกถึงเป้าหมายและความภาคภูมิใจใหม่ๆ และความคลุมเครือทางศีลธรรมของตัวตนที่แท้จริงของเขาต้องหลีกทางให้ เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายไป โลแกนพบว่าตัวเองเข้าไปพัวพันกับการสอบสวนคดีฆาตกรรม ซึ่งนำพาเขาไปเผชิญหน้ากับแจ็ก (เทีย เท็กซาดา) อดีตคู่หูของเขา ซึ่งใช้การโจรกรรมเพื่อเป็นทุนในกิจกรรมชั่วร้ายของเธอเอง ความลับของโลแกนเกือบจะถูกเปิดเผยเมื่ออดีตที่แท้จริงของเขาปะทะกับบทบาทปัจจุบันของเขา แต่ด้วยโชคช่วย เขาจึงสามารถหาทางออกไปได้ ในการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย โลแกนได้นำทักษะตำรวจของเขามาทดสอบโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับที่ซ่อนของเพชรเพื่อเอาชนะแจ็กและนำสมบัติกลับคืนมา โลแกน หมกมุ่นอยู่กับบทบาทของ 'เบลก' อย่างสมบูรณ์ ตระหนักว่าการผจญภัยของเขาไม่เพียงแต่ทำให้เขาได้พบกับเพชรล้ำค่าของเขาอีกครั้งเท่านั้น แต่ยังทำให้เขามีความรู้สึกถึงเป้าหมายและการเป็นเจ้าของใหม่ๆ ในท้ายที่สุด โลแกนกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริงของเขาและตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยใช้ประสบการณ์ตำรวจเป็นตัวกระตุ้นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาให้ดีขึ้น โทนของภาพยนตร์เปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลแกน โดยสะท้อนถึงช่วงเวลาตลกและความวุ่นวายไร้สาระด้วยน้ำเสียงที่จริงใจและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยสรุป Blue Streak คือภาพยนตร์ตลกที่มาร์ติน ลอว์เรนซ์เปล่งประกายเป็นไมลส์ โลแกน อดีตนักโทษที่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ LAPD ด้วยช่วงเวลาตลกที่ไม่หยุดยั้งและจังหวะที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่น ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ เต็มไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายที่จะทำให้ผู้ชมคาดเดาไม่ได้จนถึงตอนจบ

วิจารณ์