Doctor Who: กาลครั้งหนึ่งสองครา

"Doctor Who: กาลครั้งหนึ่งสองครา" เป็นตอนพิเศษเนื่องในวันคริสต์มาสในปี 2017 ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของด็อกเตอร์คนที่สิบเอ็ด ซึ่งรับบทโดยแมตต์ สมิธ และเป็นการส่งท้ายปีเตอร์ คาปัลดีในบทบาทด็อกเตอร์คนที่สิบสอง ตอนนี้เป็นการรวมตัวกันของด็อกเตอร์สองร่างที่ไม่ยอมเปลี่ยนร่าง และเป็นการเดินทางที่น่าสนใจเกี่ยวกับการค้นพบตัวเอง ความรัก และการปล่อยวาง ตอนนี้เริ่มต้นด้วยฉากที่สะเทือนอารมณ์ของด็อกเตอร์คนที่สิบสอง (ปีเตอร์ คาปัลดี) ในภูมิประเทศที่รกร้างและปกคลุมไปด้วยหิมะ เราได้เรียนรู้ว่าเขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของวงจรการเกิดใหม่ และจักรวาลต้องการด็อกเตอร์คนใหม่ อย่างไรก็ตาม ด็อกเตอร์ลังเลที่จะเกิดใหม่ โดยรู้สึกว่ามันจะไม่ยุติธรรมต่อเพื่อนของเขา นาร์โดล (แมตต์ ลูคัส) ซึ่งเชื่อว่าเขาจะถูกฆ่าในกระบวนการเกิดใหม่ ในขณะเดียวกัน ทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 กัปตันเจคิลล์ (มาร์ก แกทิสส์) ถูกส่งไปยังโลกที่รกร้างแห่งนี้ ในขณะที่ด็อกเตอร์พยายามหาทางออกสำหรับปริศนาการเกิดใหม่ของเขา เขาก็ได้พบกับทหารหนุ่มผู้นี้ ด้วยความรู้สึกผิดและความสูญเสีย กัปตันเจคิลล์จึงแสวงหาความปลอบใจในโลกที่แปลกประหลาดแห่งนี้ ห่างไกลจากความน่าสะพรึงกลัวของสงคราม ในดินแดนรกร้างที่ถูกแช่แข็งนี้ พวกเขาได้พบกับด็อกเตอร์คนแรก (เดวิด แบรดลีย์) ร่างของด็อกเตอร์ที่เราไม่ได้เห็นมานานหลายทศวรรษ เราได้เห็นด็อกเตอร์คนแรกครั้งสุดท้ายในตอน "The Day of the Doctor" ในปี 2013 การกลับมาพบกันอีกครั้งอย่างน่าประหลาดใจระหว่างด็อกเตอร์ทั้งสองสร้างความตึงเครียดและก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับยุคของพวกเขา ในตอนแรก ด็อกเตอร์คนแรกรู้สึกระแวงต่อการปรากฏตัวของด็อกเตอร์คนที่สิบสอง เนื่องจากเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ตาย อย่างไรก็ตาม หลังจากแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ของพวกเขา พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาทั้งสองต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อก้าวไปข้างหน้าในไทม์ไลน์ของตน ด็อกเตอร์ทั้งสองสร้างความผูกพันที่ไม่สามารถทำลายได้ ซึ่งอยู่เหนือกาลเวลาและอวกาศ อย่างไรก็ตาม การมาถึงของอวตารแก้วลึกลับ นำโดยแคลรา ออสวอลด์ (เจนนา โคลแมน) ในรูปแบบอื่นจากจักรวาลที่แตกต่างกัน รบกวนความสงบสุขที่เปราะบางระหว่างด็อกเตอร์ทั้งสอง แคลราอีกรูปแบบนี้อยู่ในโลกที่ Time Lords ไม่เคยพ่ายแพ้ และเธอกำลังตามหา Time Lords โดยมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมกับพวกเขาในการต่อสู้กับจักรวาล ด็อกเตอร์คนแรกและคนที่สิบสองร่วมมือกัน โดยรู้ว่าจักรวาลตกอยู่ในความเสี่ยง เมื่อพวกเขาเดินทางข้ามเวลา เหล่าด็อกเตอร์ตระหนักว่าประสบการณ์และความรู้ที่พวกเขามีรวมกันสามารถแก้ปัญหาใหญ่ได้ แคลราก็พยายามที่จะช่วยเช่นกัน โดยใช้พลังของอวตารแก้วและมิติอื่นเพื่อนำด็อกเตอร์ทั้งสองมาใกล้ชิดกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ เริ่มซับซ้อนเมื่อเราเห็นว่ากัปตันเจคิลล์ไม่ได้เป็นแค่ทหารธรรมดา เขามีอดีตลึกลับที่เชื่อมโยงกับ Time Lords ตลอดการเดินทางของพวกเขา เหล่าด็อกเตอร์ได้พบกับช่วงเวลาแห่งความเศร้า ความสูญเสีย และความเสียใจ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะมีความแตกต่างอย่างมากในไทม์ไลน์และประสบการณ์ของพวกเขา พวกเขามีจุดประสงค์ร่วมกัน นั่นคือการปกป้องจักรวาล ตอนนี้เป็นการรวมตัวกันอีกครั้งระหว่างด็อกเตอร์ทั้งสอง ซึ่งเราได้เห็นการส่งต่อคบเพลิงจากเรื่องราวของด็อกเตอร์คนที่สิบเอ็ด ซึ่งถือเป็นบทที่สำคัญในแฟรนไชส์ Doctor Who อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดเผยว่ากัปตันเจคิลล์ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายพล อลิสแตร์ กอร์ดอน เลธบริดจ์-สจวร์ต (รับบทโดยจอห์น เฮิร์ต) ตัวละครที่ได้รับความนิยมในจักรวาล Doctor Who นี่คือจุดหักมุม เนื่องจากกัปตันเจคิลล์มีไทม์ไลน์อื่น ซึ่งเขาได้เข้าร่วมกับ Time Lords แทนที่จะเป็นกองทัพอังกฤษ เมื่อเดิมพันสูงขึ้น เราได้เห็นการกลับมาพบกันอย่างน่าสะเทือนใจระหว่างด็อกเตอร์และกัปตันเจคิลล์ การตระหนักว่ากัปตันเจคิลล์เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของนายพล ซึ่งมีชะตากรรมที่แตกต่างกันในไทม์ไลน์นี้ เพิ่มความลึกซึ้งทางอารมณ์ให้กับตอนนี้ ตอนนี้ถึงจุดสุดยอดในตอนจบที่น่าสะเทือนใจ เมื่อเหล่าด็อกเตอร์ตกลงที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่ด้วยการหักมุม การเกิดใหม่ของด็อกเตอร์คนที่สิบสอง อันเป็นผลมาจากพลังงานของทั้งด็อกเตอร์คนแรกและคนที่สิบสองใกล้เข้ามาแล้วและกำลังจะเกิดขึ้น แคลราอยู่ที่นั่นเพื่อนำทางเหล่าด็อกเตอร์ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์นี้และเป็นสักขีพยานในการส่งต่อคบเพลิง ในช่วงเวลาแห่งการอำลาที่น่าสะเทือนใจ ด็อกเตอร์คนแรกมอบแหวนแห่งรัศมีของ Time Lord ให้กับด็อกเตอร์คนที่สิบสอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการส่งต่อมรดก ด็อกเตอร์คนที่สิบสองเกิดใหม่เป็นร่างที่สิบสามของโจดี วิทเทคเกอร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแฟรนไชส์ Doctor Who