Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว

Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว

พล็อต

ในโลกที่เต็มไปด้วยความหยาบกระด้างของอาชญากรรม ความภักดีเป็นสิ่งหรูหราที่น้อยคนนักจะมีได้ และความไว้วางใจคือคุณธรรมที่มักถูกทรยศ 'Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว' คือภาพยนตร์ระทึกขวัญตลกร้ายที่เข้มข้นและน่าติดตาม ซึ่งจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์สุดระทึกและอะดรีนาลีนสูบฉีด เรื่องราวเกิดขึ้นในบอสตันปี 1978 ภาพยนตร์จะนำผู้ชมไปสู่การเดินทางที่บิดเบี้ยวผ่านถนนที่มืดมิดและโลกใต้ดินที่เสื่อมทรามทางศีลธรรม เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในโกดังร้างที่สลัวแสงชานเมืองบอสตัน ซึ่งสองแก๊งคู่แข่ง คือ ไอริชและอังกฤษ ได้ตกลงที่จะพบกันเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าอาวุธที่ร่ำรวย อย่างไรก็ตาม การเจรจาต่อรองกลับกลายเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างรวดเร็ว และโกดังก็ระเบิดกลายเป็นสงครามยิงต่อสู้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องแย่งชิงเพื่อเอาชีวิตรอด ภาพยนตร์เรื่องนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ บิกเคิล (เบรนแดน กลีสัน) นักวิ่งปืน IRA ที่เก๋าเกมและแก่ชรา ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการข้อตกลงอาวุธ คู่หูชาวอังกฤษของเขา เวอร์นอน (อาร์มี แฮมเมอร์) เป็นลูกชายที่ถูกตามใจและมีสิทธิพิเศษของพ่อค้าอาวุธผู้ร่ำรวย ซึ่งกระหายที่จะได้อาวุธปืนล้ำค่า ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะไม้ที่ผุพัง ล้อมรอบไปด้วยผู้ติดตามของพวกเขา รวมถึง มาร์ติน (ไมเคิล สไมลีย์) นักสู้ IRA ที่มีประสบการณ์ และ จัสติน แฟนสาวของเวอร์นอน (คิลเลียน เมอร์ฟีและบรี ลาร์สัน) หญิงสาวที่มีเสน่ห์และสวยงามแต่ก็โหดเหี้ยม เมื่อการเจรจาเริ่มต้นขึ้น ความตึงเครียดก็เพิ่มขึ้น และทั้งสองแก๊งเริ่มสงสัยซึ่งกันและกันถึงการทรยศหักหลัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ เหตุการณ์โชคร้ายหลายชุดก็เกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ของการนองเลือดและความวุ่นวาย โกดังที่ครั้งหนึ่งเคยเงียบสงบ บัดนี้กลายเป็นเขตสงคราม โดยมีกระสุนพุ่งพรวดพราดและร่างผู้คนล้มลงไม่หยุดหย่อน ท่ามกลางความโกลาหล จัสตินพบว่าตัวเองตกอยู่ในวงล้อมของไฟ และต้องใช้สติปัญญาและเสน่ห์ของเธอเพื่อเอาชีวิตรอด พันธมิตรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ของเธอคือ แฮร์รี่ (ชาร์ลโต คอปลีย์) เพื่อนนักค้าอาวุธที่แปลกประหลาดและเป็นโรคจิตของเวอร์นอน ซึ่งอาจกุมกุญแจสำคัญในการดำเนินงานทั้งหมด ในขณะที่จัสตินนำทางไปตามภูมิประเทศที่ทรยศ เธอเริ่มคลี่คลายใยแห่งการหลอกลวงและการทรยศที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าเศร้า การกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดย เบน วีทลีย์ นั้นยอดเยี่ยม โดยสานเรื่องราวที่ซับซ้อนซึ่งมีความเท่าเทียมกันระหว่างตลกดำและความต่อเนื่องของการกระทำที่ฉูดฉาด บทภาพยนตร์ที่เขียนร่วมกันโดย เบน วีทลีย์ และ เอมี่ จั๊มพ์ ฉลาดและคมกริบ ด้วยอารมณ์ขันร้ายกาจที่ตัดผ่านความโกลาหลเหมือนมีดร้อนผ่านเนย การดำเนินเรื่องนั้นไม่หยุดยั้ง เร่งเร้าผู้ชมผ่านกระแสน้ำวนของการยิงปืน การไล่ล่าด้วยรถยนต์ และการต่อสู้ในระยะประชิด ทำให้แทบไม่มีเวลาได้พักหายใจ ทีมนักแสดงถ่ายทอดการแสดงที่โดดเด่น นำตัวละครของพวกเขากลับมามีชีวิตด้วยความลึกซึ้งและความซับซ้อนที่เหนือความคาดหมายในภาพยนตร์ประเภทนี้ เคมีระหว่างนักแสดงนำนั้นชัดเจน โดยมีช่วงเวลาที่โดดเด่นจาก บรี ลาร์สัน และ ชาร์ลโต คอปลีย์ ซึ่งยกระดับภาพยนตร์ไปสู่อีกระดับด้วยการปรากฏตัวบนหน้าจอที่น่าดึงดูดใจ ผ่านมุมมองของ 'Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว' ฉากบอสตันปี 1978 ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยรายละเอียดที่พิถีพิถัน พาผู้ชมไปยังโลกที่หยาบกระด้างและเสื่อมทรามทางศีลธรรม ซึ่งการปกครองด้วยกฎหมายเป็นความทรงจำที่เลือนลาง การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งดำเนินการโดย ลอรี่ โรส นั้นเนียนและงดงาม จับภาพความเข้มข้นของฉากแอ็คชั่นและความสิ้นหวังของตัวละคร สุดท้ายแล้ว 'Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว' เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและไม่เคารพ ซึ่งท้าทายขนบธรรมเนียมของประเภทและปฏิเสธที่จะให้ผู้ชมได้พัก เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสำหรับคนใจเสาะ แต่สำหรับผู้ที่ปรารถนาสิ่งที่ดิบ เถื่อน และฉูดฉาด ด้วยพลังงานที่ไม่ลดละและอารมณ์ขันที่ร้ายกาจ 'Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว' เป็นสิ่งที่แฟน ๆ ของภาพยนตร์ระทึกขวัญอาชญากรรม ภาพยนตร์แอ็คชั่น และตลกดำไม่ควรพลาด

Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว screenshot 1
Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว screenshot 2
Free Fire: ดวลเดือดกระสุนรัว screenshot 3

วิจารณ์