หลงทางในลามันชา

Lost in La Mancha เป็นภาพยนตร์สารคดีที่กำกับโดยเควิน แมคโดนัลด์ นำเสนอโครงการอันทะเยอทะยานของเทอร์รี กิลเลียมในการนำผลงานชิ้นเอกเหนือกาลเวลาของเซอร์บันเตสเรื่อง Don Quixote มาสู่จอใหญ่ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำผู้ชมไปสู่การเดินทางเบื้องหลังการสร้าง The Man Who Killed Don Quixote นำเสนอภาพลักษณ์ที่ใกล้ชิดถึงความยากลำบากและการทดลองที่ Gilliam และทีมงานของเขาต้องเผชิญ เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1999 เมื่อ Gilliam ผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีวิสัยทัศน์ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานเหนือจริงและน่าทึ่งทางสายตาของเขา เช่น Brazil, 12 Monkeys และ Fear and Loathing in Las Vegas ได้เริ่มดัดแปลงนวนิยายคลาสสิกของเซอร์บันเตสให้เป็นภาพยนตร์สารคดี Gilliam เป็นแฟนตัวยงของ Don Quixote และมองว่าโครงการนี้เป็นโอกาสในการแสดงความเคารพต่อวรรณกรรมคลาสสิก โดยผสมผสานจินตนาการและอารมณ์ขันที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเข้าไป สารคดีติดตามลูกเรือของ Gilliam ขณะที่พวกเขาเดินทางมาถึง La Mancha ประเทศสเปน ซึ่งเป็นชนบทห่างไกลที่เป็นฉากหลังที่เหมาะสมสำหรับการตั้งค่าในศตวรรษที่ 17 ของเซอร์บันเตส ทีมงานปรับตัวเข้ากับพื้นที่อย่างรวดเร็ว เข้าพักในบ้านไร่เก่าแก่ที่มีเสน่ห์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นฐานปฏิบัติการชั่วคราว หนึ่งในความท้าทายแรกๆ ที่ลูกเรือเผชิญคือการค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมให้ตรงกับการตั้งค่าชนบทของสเปนในภาพยนตร์ ผู้กำกับ Guillermo de Oliveira และทีมงานของเขาเริ่มต้นการเดินทางสำรวจสถานที่ โดยค้นหาภูมิภาคสำหรับหมู่บ้านที่งดงาม เนินเขากลิ้ง และทิวทัศน์อันงดงาม ในขณะเดียวกัน Gilliam เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายภาพหลักของภาพยนตร์ โดยจัดการซ้อมและการออดิชั่นกับนักแสดง การคัดเลือกนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นประเด็นที่ขัดแย้งกัน Gilliam ยืนกรานว่าบทนำของ Don Quixote จะต้องเล่นโดย Jean Rochefort นักแสดงชาวฝรั่งเศสที่แม้จะมีอายุมาก แต่ก็รวบรวมจิตวิญญาณของอัศวินผู้แปลกประหลาด อย่างไรก็ตาม Rochefort ประสบอาการบาดเจ็บที่หลังหลายครั้ง ซึ่งคุกคามที่จะทำลายการผลิตทั้งหมด ในขณะที่ลูกเรือพยายามที่จะหาตัวแทนที่เหมาะสมสำหรับ Rochefort พายุประหลาดเริ่มระบาดในภูมิภาค ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างกว้างขวางในการถ่ายทำ สารคดีจับภาพความหงุดหงิดและความผิดหวังของทีมงาน เมื่อพวกเขาเผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ฉากที่ตั้งใจจะถ่ายในทุ่งหญ้าที่สวยงามและมีแสงแดดส่องถึงกลับกลายเป็นความโกลาหลเมื่อพายุทอร์นาโดพัดเข้ามาอย่างกะทันหัน ขู่ว่าจะจมอุปกรณ์ นอกจากความท้าทายด้านลอจิสติกส์แล้ว ลูกเรือยังเผชิญกับความยากลำบากทางวัฒนธรรมและทางภูมิศาสตร์อีกด้วย หมู่บ้าน Escalona ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญบางฉากของภาพยนตร์ กำลังดิ้นรนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการหลั่งไหลเข้ามาของผู้คนภายนอก และเกิดความตึงเครียดระหว่างคนในท้องถิ่นและลูกเรือ ความปรารถนาของผู้กำกับที่จะสร้างการดัดแปลงนวนิยายของเซอร์บันเตสที่ซื่อสัตย์ก็ขัดแย้งกับความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น ซึ่งสนใจในการอนุรักษ์มรดกของหมู่บ้านของตนมากกว่า เมื่อโครงการยังคงเผชิญกับปัญหาแล้วปัญหาเล่า Gilliam ก็เริ่มท้อแท้มากขึ้น แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องล้มเหลว และความกระตือรือร้นของผู้กำกับก็เริ่มลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกเรือยังคงภักดีต่อผู้นำของพวกเขา และพวกเขายังคงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วง แม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่สารคดีก็จับภาพความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ขับเคลื่อนการทำงานของ Gilliam ความหลงใหลของผู้กำกับต่อ Don Quixote เป็นที่ประจักษ์ตลอดทั้งเรื่อง และวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ชัดเจน แม้ว่าจะไม่เป็นผลสำเร็จก็ตาม ในขณะที่โครงการล่มสลายรอบตัวเขา Gilliam ยังคงแน่วแน่ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างภาพยนตร์ที่จะให้เกียรติจิตวิญญาณแห่งผลงานชิ้นเอกของเซอร์บันเตส Lost in La Mancha เป็นภาพยนตร์เบื้องหลังที่น่าสนใจของการสร้างภาพยนตร์ที่ไม่เคยมี สารคดีเรื่องนี้นำเสนอภาพรวมที่เป็นเอกลักษณ์ของกระบวนการสร้างสรรค์ โดยเปิดเผยความท้าทายและชัยชนะที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องเผชิญเมื่อนำโครงการที่ท้าทายมาสู่ชีวิต แม้ว่าเรื่องราวของ The Man Who Killed Don Quixote จะจบลงด้วยความผิดหวัง แต่ตัวสารคดีเองก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังที่ยั่งยืนของวิสัยทัศน์ทางศิลปะและจิตวิญญาณของมนุษย์