Mamma Mia!

พล็อต
บนเกาะคาโลไคริที่งดงามราวภาพวาดของกรีก โซฟี เชอริแดน เป็นว่าที่เจ้าสาวที่กระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา ซึ่งใฝ่ฝันถึงงานแต่งงานที่แสนโรแมนติกและงดงามมาโดยตลอด ดอนน่า แม่ของเธอเป็นเจ้าของวิลล่าที่มีเสน่ห์และโรงแรมเล็กๆ ที่แปลกตา และโซฟีเติบโตขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเสียงเพลงของ ABBA ที่สนุกสนาน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเธอ ขณะที่โซฟีครุ่นคิดถึงพิธีแต่งงานที่กำลังจะมาถึง เธอพบว่าตัวเองลังเลใจระหว่างความปรารถนาที่จะมีงานแต่งงานที่หรูหราและเป็นทางการ กับความรักที่เธอมีต่อคู่หมั้นของเธอ สกาย อย่างไรก็ตาม คำถามที่คุกรุ่นอยู่ในใจของโซฟีคือใครคือพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ ซึ่งเป็นปริศนาที่ถูกปกคลุมไปด้วยความลับมานานหลายปี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไขปริศนานี้และอาจได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพลวัตของครอบครัว โซฟีบังเอิญไปเจอบันทึกเก่าแก่ของแม่ ซึ่งมีชื่อและข้อมูลติดต่อของอดีตคนรักสามคนของดอนน่า ที่น่าประหลาดใจ โซฟีพบว่าผู้ชายเหล่านี้อาจเป็นพ่อของเธอและเป็นคนที่ควรค่าแก่การพบเจอ ความรักที่โซฟีมีต่อ ABBA เป็นแรงผลักดันให้เธอตัดสินใจ และด้วยความรีบร้อน เธอจึงเชิญชายทั้งสามคน ได้แก่ แซม คาร์ไมเคิล บิล แอนเดอร์สัน และแฮร์รี่ ไบรท์ โดยไม่ได้ปรึกษาแม่ของเธอ เธอหวังว่าหนึ่งในนั้นอาจเป็นพ่อของเธอและยินดีที่จะจูงเธอเข้าพิธีในวันสำคัญของเธอ เมื่อแขกเริ่มทยอยมาถึง รวมทั้งแม่ของโซฟีและเพื่อนๆ บรรยากาศบนเกาะก็เริ่มตื่นเต้นและรอคอยมากขึ้น ดอนน่าไม่รู้ถึงแผนการของโซฟีและการมาถึงของอดีตคนรักของเธอในตอนแรก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกประหลาดใจกับความวุ่นวายที่มีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ แซม นักธุรกิจที่มีเสน่ห์และมีบุคลิกที่น่าดึงดูดใจ เป็นรักแรกของดอนน่า ซึ่งเธอมีความสัมพันธ์ที่หวือหวาในวัยเยาว์ ในทางกลับกัน บิลค่อนข้างจะสงวนท่าทีมากกว่า เขาเป็นแฟนของดอนน่าในช่วงเวลาที่สงบและไร้กังวลในชีวิตของเธอ แฮร์รี่ หัวหน้าดับเพลิงรูปหล่อและมีเสน่ห์ เป็นตัวแทนของความรักที่ไร้กังวลและเร่าร้อน เมื่อชายทั้งสามเริ่มปฏิสัมพันธ์กับโซฟี โทนของภาพยนตร์จะเปลี่ยนไปเป็นการเติบโตเป็นผู้ใหญ่และการค้นพบตัวเอง ความปรารถนาของโซฟีที่จะได้รับการอนุมัติจากพ่อของเธอแปรเปลี่ยนเป็นการแสวงหาตัวตนของเธอเอง ขณะที่เธอเผชิญกับความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในครอบครัว ความรัก และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเธอ ตลอดทั้งเรื่อง เมอรีล สตรีปเปล่งประกายในบทดอนน่า นำมาซึ่งความลึกซึ้งและความกินใจให้กับตัวละคร ขณะที่ อแมนดา ไซย์ฟรีด ถ่ายทอด esencia เสน่ห์และความแข็งแกร่งของโซฟีได้อย่างมีชีวิตชีวา เพียร์ซ บรอสแนน โคลิน เฟิร์ธ และสเตลแลน สการ์สการ์ด แสดงบทบาทของตนได้อย่างสวยงาม เติมพลัง อารมณ์ขัน และดราม่าให้กับภาพยนตร์ ฉากเต้นรำส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยเพลงฮิตของ ABBA เช่น "Dancing Queen", "Mamma Mia" และ "Take a Chance on Me" เพิ่มคุณภาพที่สนุกสนานและครึกครื้นให้กับภาพยนตร์ สะท้อนถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะของเกาะ การใช้เพลงประกอบของ ABBA ไม่เพียงแต่เป็นวิธี回味เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกระตุ้นที่ร้อยเรียงธีมของเรื่องราวแห่งความรัก ครอบครัว และการค้นพบตนเองเข้าด้วยกัน Mamma Mia! ผสมผสานความฟุ่มเฟือยทางดนตรีเข้ากับเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนของลูกสาวที่พยายามทำความเข้าใจประวัติครอบครัวของเธอและผู้ชายที่มีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมชีวิตของเธอ เรื่องราวตลกขบขันที่เต็มไปด้วยการเต้นรำนี้เจาะลึกลงไปในคำถามที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับพลวัตของครอบครัว ความรัก และคำจำกัดความของความสมบูรณ์แบบที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
วิจารณ์
Myla
''Meryl, Mamma Mia. We were in Greece, we danced, I was gay, we were happy.'' - Colin Firth. Dying! Colin's singing is surprisingly good!
Avery
I! Hate! The! Protagonist! Three long-legged potential dads, one is 007, one is from Kingsman, and another is Stellan Skarsgård! And then she marries Iron Man's dad in the end! She wins! Wins big time!
Lorenzo
Came especially to witness the "Devil Wears Prada went mad, 007 lost it, and Mr. Darcy is off his rocker" spectacle. I was expecting a hilarious mess of three handsome old men battling it out, but it turned out to be the Brosnan show! His rusty voice and that long-haired Martian look nearly had me in tears of laughter. And Colin coming out as gay? Totally losing it...
Lola
Meryl's gone wild, Bond's acting goofy, and Mr. Darcy's lost his composure... This movie is a riot! A whole bunch of A-listers are collectively acting crazy, but it's just that I'm really not a big fan of musicals myself.
คำแนะนำ
