มิสซิสซิปปีเดือด
พล็อต
มิสซิสซิปปีเดือด เป็นภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์อเมริกันปี 1988 กำกับโดยอลัน พาร์คเกอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากอยู่ในช่วงทศวรรษ 1960 และมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเรื่องจริงของการหายตัวไปและการฆาตกรรมนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองสามคน ได้แก่ เจมส์ เชนีย์, แอนดรูว์ กู๊ดแมน และไมเคิล ชเวอร์เนอร์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 1964 ชายทั้งสามคนนี้เดินทางไปที่เทศมณฑลเนโชบา รัฐมิสซิสซิปปี เพื่อตรวจสอบการเผาโบสถ์ของชาวแอฟริกันอเมริกันในท้องถิ่นและให้การสนับสนุนชาวแอฟริกันอเมริกันในท้องถิ่นที่กำลังดิ้นรนเพื่อสิทธิของพวกเขา เมื่อการสืบสวนของพวกเขาคืบหน้า พวกเขาก็เริ่มเข้าไปพัวพันกับความตึงเครียดทางเชื้อชาติและความรุนแรงมากขึ้น ในคืนวันที่ 21 มิถุนายน พวกเขาถูกตำรวจท้องที่และกองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติหยุดไว้ด้วยความสงสัยว่าเป็นสายลับคอมมิวนิสต์ อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่แท้จริงในการจับกุมพวกเขาคือการมีส่วนร่วมกับคณะกรรมการประสานงานนักศึกษาไม่ใช้ความรุนแรง (SNCC) เพื่อจัดการลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวแอฟริกันอเมริกัน ในภาพยนตร์ เจ้าหน้าที่ FBI สองคน ได้แก่ เจ้าหน้าที่อลัน วอร์ด (แสดงโดยวิลเลม เดโฟ) และเจ้าหน้าที่รูเพิร์ต แอนเดอร์สัน (แสดงโดยยีน แฮกแมน) ถูกส่งไปสืบสวนการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองทั้งสามคน เจ้าหน้าที่วอร์ดเป็นเจ้าหน้าที่หนุ่มไฟแรงที่ได้รับการฝึกฝนจาก FBI Academy และขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะรักษากฎหมายและนำความยุติธรรมมาสู่เหยื่อ เจ้าหน้าที่แอนเดอร์สัน ในทางกลับกัน เป็นอดีตนายอำเภอทหารผ่านศึกที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมและนโยบายของเมืองเล็กๆ ในรัฐมิสซิสซิปปี ในขั้นต้น เขาขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่วอร์ด ที่กระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ตัวเองและท้าทายการจัดการคดีของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่น ระหว่างการสืบสวนของพวกเขา เจ้าหน้าที่ทั้งสองเผชิญกับการต่อต้านและความเป็นปรปักษ์จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและชุมชนคนผิวขาว พวกเขาพยายามที่จะหาพยานที่เต็มใจจะออกมาให้ข้อมูล เนื่องเมืองนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมแห่งการแบ่งแยกและการข่มขู่ ความพยายามของเจ้าหน้าที่ถูกขัดขวางจากการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ และพวกเขาต้องจัดการกับความซับซ้อนของการเมืองทางเชื้อชาติเพื่อเปิดเผยความจริง ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความคับข้องใจที่เพิ่มขึ้นของเจ้าหน้าที่เมื่อพวกเขาได้รับการตอบสนองด้วยความเงียบและการไม่กระทำจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น FBI ถูกมองว่าเป็นสถาบันภายนอกที่เข้ามาแทรกแซงกิจการของเมืองเล็กๆ ที่ทุกคนรู้จักกัน การกระทำของเจ้าหน้าที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อสภาพที่เป็นอยู่ และพวกเขาถูกมองด้วยความสงสัยจากชุมชนคนผิวขาว เมื่อการสืบสวนคลี่คลาย เจ้าหน้าที่ก็เริ่มตระหนักว่าการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบความรุนแรงและการข่มขู่ที่ใหญ่กว่าต่อชาวแอฟริกันอเมริกันในเมือง เจ้าหน้าที่ของเมืองและผู้นำท้องถิ่นถูกแสดงให้เห็นว่ามีส่วนร่วมในการปราบปรามสิทธิของชาวแอฟริกันอเมริกันและการทำให้การแบ่งแยกทางเชื้อชาติคงอยู่ต่อไป ชื่อภาพยนตร์ มิสซิสซิปปีเดือด สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางเชื้อชาติและความรุนแรงที่รัฐกำลังเผชิญในช่วงทศวรรษ 1960 ชื่อนี้หมายถึงการเผาโบสถ์และความรุนแรงรูปแบบอื่นๆ ที่กระทำต่อชุมชนชาวแอฟริกันอเมริกัน เรื่องราวของภาพยนตร์สร้างขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากันอย่างน่าทึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้กระทำความผิดในการฆาตกรรม ซึ่งนำไปสู่การเปิดเผยความจริงและการจับกุมผู้กระทำความผิดในที่สุด ยีน แฮกแมน ในหนึ่งในบทบาทที่น่าจดจำที่สุดของเขา แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในบทบาทของเจ้าหน้าที่รูเพิร์ต แอนเดอร์สัน โดยนำความลึกซึ้งและแง่มุมที่แตกต่างมาสู่ตัวละคร การพรรณนาถึงทหารผ่านศึกอดีตนายอำเภอที่เผชิญกับความซับซ้อนทางศีลธรรมของคดีนี้ ทั้งน่าเชื่อถือและจับใจ การถ่ายทำภาพยนตร์และการออกแบบงานสร้างเป็นที่น่าสังเกตสำหรับการจับภาพบรรยากาศของภาคใต้ในช่วงทศวรรษ 1960 การใช้แสง มุมกล้อง และฉากของภาพยนตร์สร้างภาพที่โดดเด่นในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มิสซิสซิปปีเดือด ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางเมื่อออกฉาย ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สองรางวัล และได้กลายเป็นภาพยนตร์สำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์อเมริกัน การพรรณนาถึงความตึงเครียดทางเชื้อชาติและความรุนแรงในช่วงทศวรรษ 1960 ยังคงเป็นการเตือนใจที่ทรงพลังถึงความจำเป็นในการก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อความเท่าเทียมและความยุติธรรมทางสังคมที่มากขึ้น การสำรวจความซับซ้อนของการเมืองทางเชื้อชาติและบทบาทของสถาบันต่างๆ ในการทำให้ความไม่เท่าเทียมกันดำเนินต่อไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนใจผู้ชมมานานหลายทศวรรษ ธีมของภาพยนตร์เรื่องความกล้าหาญ ความยืดหยุ่น และความสำคัญของการรักษากฎหมายเมื่อเผชิญกับการกดขี่เป็นอมตะและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมต่อไปในปัจจุบัน มิสซิสซิปปีเดือด เป็นภาพยนตร์ที่ทรงพลังและกระตุ้นความคิดที่ท้าทายให้ผู้ชมเผชิญหน้ากับแง่มุมที่มืดมนกว่าของประวัติศาสตร์อเมริกา การพรรณนาถึงการต่อสู้ที่ชาวแอฟริกันอเมริกันเผชิญในช่วงทศวรรษ 1960 ยังคงเป็นการเตือนใจถึงความคืบหน้าที่ยังต้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุความยุติธรรมทางสังคมและความเสมอภาคที่มากขึ้นสำหรับทุกคน
วิจารณ์
Leah
A film imbued with a stubborn and tragic atmosphere, knowing full well that the process will be rugged and bumpy, even leading to more intense conflicts. The film, from one aspect, one event, brings the audience a panoramic feeling of that era, awakening more people from social ills.
Liliana
9.0/10. FUCK! The soundtrack is killer, the acting is phenomenal, and the pacing is explosive! The director's style might be a bit old-school, but it's as exhilarating as watching a rock concert. Not a single dull moment! Beneath the surface, you can feel the intense conflict, with climaxes and eruptions everywhere! It's as if the entire state of Mississippi is ablaze!!!!
Peter
At the 2001 Shanghai International Film Festival, among Alan Parker's film series, this was the one film I translated. The script, thicker than a brick, I read it thoroughly at least twice from cover to cover.
Everly
Set against the backdrop of the KKK's persecution of Black people in the historical period. The two FBI agents are depicted with contrasting personalities, one temperamental and the other rational. Gene Hackman and Willem Dafoe both deliver excellent performances. The overall atmosphere of the film is quite oppressive, but the ending shifts too quickly. The easier and simpler justice comes, the cheaper it feels, rendering the preceding buildup meaningless. "True Detective" and "Fargo" likely drew inspiration from this film. Three and a half stars.
คำแนะนำ
