ปิรันย่า

พล็อต
ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นำโดยพอล โกรเทค กำลังทำการทดลองในห้องปฏิบัติการใต้ซากปรักหักพังของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่าในทะเลสาบนูบาลา ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลจากรีสอร์ทฤดูร้อนยอดนิยมที่ชื่อว่าเครสต์วิว เพื่อกระตุ้นการเติบโตของสิ่งมีชีวิตที่ผิดรูปและไร้ชีวิตชีวาในทะเลสาบ นักวิทยาศาสตร์จึงใช้สารพิษร้ายแรงเพื่อเพิ่มการเผาผลาญและกระตุ้นการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกมันดุร้ายและอันตรายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน เรือบรรทุกนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่กำลังปาร์ตี้ ซึ่งมาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน ได้แล่นเรือในทะเลสาบนูบาลา ขณะที่พายุกำลังก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า นักเรียนพยายามหาที่หลบภัยบนเกาะใกล้เคียง แต่กลับบังเอิญไปเจอกับห้องปฏิบัติการที่ซ่อนอยู่ใต้โรงไฟฟ้าที่ถูกทิ้งร้าง นักเรียนคนหนึ่งชื่อซูซานได้รับบาดเจ็บระหว่างการสำรวจและตกลงไปในทะเลสาบใกล้เคียง ทำให้สารพิษรั่วไหลลงสู่น้ำ ห้องปฏิบัติการรั่วไหล ปล่อยสารพิษลงสู่ระบบน้ำที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบนูบาลา นักวิทยาศาสตร์ตระหนักถึงความผิดพลาดของตนและพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเรียกเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมความเสียหาย อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไป สารพิษรวมกับมลพิษในทะเลสาบกระตุ้นปฏิกิริยารุนแรงจากสิ่งมีชีวิตในน้ำของทะเลสาบ ปลาปิรันย่าซึ่งปกติกินปลาเล็กและสัตว์น้ำอื่นๆ เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่มีฟันคมเหมือนมีดโกน ซึ่งกินเกือบทุกสิ่งที่ลงไปในน้ำ ปลาปิรันย่าเหล่านี้เป็นกองกำลังที่ต้องคำนึงถึง โจมตีและเขมือบทุกสิ่งที่ลงไปในน้ำ รวมถึงแขกที่มาพักที่เครสต์วิวรีสอร์ท ในตอนแรก แขกและพนักงานของรีสอร์ทยังไม่รู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ พวกเขายังคงสนุกสนานในรีสอร์ท แต่ความสุขของพวกเขาก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้น และความรู้สึกเร่งด่วนก็เข้าครอบงำรีสอร์ท ผู้คนเริ่มหลบหนี แต่ปลาปิรันย่าก็ไม่ยอมละลด โจมตีทุกสิ่งที่ลงไปในน้ำ นักวิทยาศาสตร์ที่ปล่อยสารตระหนักถึงความผิดพลาดอันน่ากลัวของพวกเขาและตัดสินใจร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อหยุดการแพร่กระจายของปลาปิรันย่า พวกเขาใช้วิธีแก้ปัญหาที่ไม่ธรรมดาด้วยการปล่อยปลาปิรันย่าขนาดเล็กจำนวนมากลงในทะเลสาบ โดยหวังว่าขนาดที่เล็กกว่าและพฤติกรรมการกินของพวกมันจะทำให้พวกมันไม่สามารถเข้าถึงเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ แนวคิดเบื้องหลังแผนการนี้คือปลาปิรันย่าขนาดเล็กจะกินปลาปิรันย่าขนาดใหญ่กว่า ลดปัญหาลง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลตามที่วางแผนไว้ เจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง พวกเขาตั้งเครื่องกีดขวาง โดยหวังว่าจะควบคุมปัญหาและปกป้องแขกที่เหลืออยู่ แต่มันสายเกินไป ปลาปิรันย่าได้ระบาดเข้าไปในทะเลสาบแล้วและเริ่มที่จะบุกขึ้นบก กินแขกและพนักงานของรีสอร์ท ผู้รอดชีวิตถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง และพวกเขาก็คิดแผนการที่สิ้นหวังในการต่อสู้กลับกับปลาปิรันย่า พวกเขารวบรวมทุกสิ่งที่หาได้ หอก แหจับปลา และแม้กระทั่งมือเปล่า เพื่อต่อสู้กับปลาที่ร้ายกาจ ในการเผชิญหน้าที่น่าตื่นเต้น พวกเขาเผชิญหน้ากับปลาปิรันย่าในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ในท้ายที่สุด แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ แขกหลายคนก็ไม่รอดชีวิต ปลาปิรันย่าพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังที่ร้ายกาจและไม่ยอมลดละที่ไม่สามารถกักขังหรือหยุดยั้งได้ อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหลบหนีจากการสังหารหมู่ได้ หนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่คนชื่อสตีเวน คิมเบิล กลับขึ้นฝั่งและพบว่าเจ้าหน้าที่กำลังรอเขาอยู่พร้อมกับยากล่อมประสาทเพื่อทำให้เขาสงบสติอารมณ์ เขาเล่าถึงประสบการณ์ที่น่ากลัวของเขาให้เจ้าหน้าที่ฟัง โดยหวังว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ภาพยนตร์จบลงด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ โดยบอกเป็นนัยว่าอันตรายจากปลาปิรันย่ายังไม่ได้รับการควบคุมอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามทำความสะอาดทะเลสาบและฟื้นฟูระบบนิเวศ ปลาปิรันย่าอาจยังคงซุ่มซ่อนอยู่ในน้ำ รอโอกาสที่จะโจมตีครั้งต่อไป
วิจารณ์
คำแนะนำ
