Priscilla

Priscilla

พล็อต

ภาพยนตร์ชีวประวัติที่น่าติดตามอย่าง 'Priscilla' บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่น่าหลงใหลและปั่นป่วนระหว่าง Priscilla Presley ซึ่งในขณะนั้นเป็นลูกสาววัยรุ่นของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ และ Elvis Presley นักร้องผู้โด่งดัง กำกับโดย Alison Maclean นักสร้างภาพยนตร์และนักเขียนเจ้าของรางวัล ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอภาพเหมือนที่ใกล้ชิดและน่าดึงดูดของ Priscilla Presley ผู้ลึกลับและความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาของเธอกับ Elvis Presley หนึ่งในสัญลักษณ์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของอเมริกา เรื่องราวเกิดขึ้นในบรรยากาศชวนคิดถึงของเมืองเมมฟิสในทศวรรษ 1950 ภาพยนตร์แนะนำให้รู้จักกับ Priscilla Beaulieu รับบทโดย Charlotte Kirk วัยรุ่นที่ขี้อายและมีเสน่ห์ ซึ่งกำลังจะเริ่มต้นการเดินทางที่น่าหลงใหลซึ่งจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเธอไปตลอดกาล ชีวิตของ Priscilla ในตอนนั้นไม่ได้แตกต่างจากเด็กสาวอเมริกันหลายคนมากนัก: เธอต้องย้ายไปหลายครั้งเนื่องจากพ่อที่เป็นทหารของเธอย้ายไปประจำการตามฐานทัพต่างๆ พยายามสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาของเธอ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ กลับพลิกผันอย่างไม่คาดฝันเมื่อ Priscilla ได้รู้จักกับ Elvis Presley นักร้องเพลงร็อกที่ลึกลับและเปี่ยมไปด้วยพลัง ในงานปาร์ตี้ที่นำพาคนสองคนที่ดูเหมือนแตกต่างกันสุดขั้วมาพบกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาและซับซ้อนที่จะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความสนใจใคร่รู้เป็นเวลาหลายปี Elvis ผู้มีเสน่ห์ รับบทโดย Luke Hemsworth ถูกนำเสนอในตอนแรกในฐานะบุคคลที่รวบรวมแก่นแท้ของบุคลิกเพลงร็อกแอนด์โรลของเขา: มั่นใจ มีเสน่ห์ และเย้ายวน อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ภาพลักษณ์สาธารณะของ Elvis ถูกเปิดเผยว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของบุคคลที่ซับซ้อนกว่า เป็นบุคคลที่มีหลายแง่มุมที่ต้องต่อสู้กับความโดดเดี่ยว ความเหงา และภาระของชื่อเสียง เมื่อ Priscilla เข้าไปอยู่ในแวดวงภายในของ Elvis อย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของพวกเขาก็เบ่งบานกลายเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ที่ Priscilla พบว่าทั้งน่าตื่นเต้นและท่วมท้น Elvis หลงใหลในความเยาว์วัย พลัง และความกระตือรือร้นที่ไม่ย่อท้อของ Priscilla มองว่าเธอเป็นทางออกจากการกดดันของชื่อเสียง และเป็นความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้งกว่าใครๆ พลวัตระหว่างทั้งสองถูกนำเสนอว่ารุนแรง รุนแรง และในบางครั้งก็เปราะบาง จับภาพการเต้นรำที่ละเอียดอ่อนของความรักที่นำทางขอบเขตของความเปราะบาง การปกป้อง และการครอบครอง เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินไป กล้องจะแพนไปทั่วโลกที่แปลกประหลาดและฉูดฉาดของ Elvis ซึ่งเป็นภาพที่สดใสของความฟุ่มเฟือย การปล่อยตัว และการแสดง แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ของศิลปินในการดึงดูดผู้ชมของเขา ท่ามกลางฉากอันเสื่อมโทรมเหล่านี้ Priscilla ได้เผชิญหน้ากับด้านมืดของชีวิตส่วนตัวของ Elvis พลวัตที่ปั่นป่วนในการแต่งงานของเขากับผู้หญิงชื่อ Ann-Margret และแรงกดดันของชื่อเสียงที่มีต่อตัวเขาเอง จากการนำเสนอครั้งนี้ ภาพยนตร์นำเสนอภาพเหมือนที่ละเอียดอ่อนและหลายมิติของ Elvis Presley บุคคลที่ซับซ้อนซึ่งชีวิตที่โดดเด่นด้วยความสามารถที่เหลือเชื่อและความวุ่นวายอย่างสุดซึ้ง ได้ทิ้งผลกระทบที่ยั่งยืนไว้บนโลก ในทางตรงกันข้าม Priscilla ถูกนำเสนอในฐานะผู้หญิงที่เข้มแข็งและยืดหยุ่น ซึ่งในหลายๆ ด้านทำหน้าที่เป็นหินที่ Elvis ต้องการในช่วงเวลาที่เขาเปราะบาง พลวัตระหว่างทั้งสองถูกนำเสนอว่าสร้างขึ้นจากความไว้วางใจ ความเข้าใจ และเหนือสิ่งอื่นใดคือความรักใคร่ที่ลึกซึ้งซึ่งกันและกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายภาพความรักของพวกเขาว่าแท้จริง อ่อนโยน และเต็มไปด้วยช่วงเวลาที่เงียบสงบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องถ่วงดุลที่เฉียบคมต่อความเย้ายวนใจที่วุ่นวายของภาพลักษณ์สาธารณะของ Elvis ตลอดทั้งเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่าง Priscilla และ Elvis ถูกวาดภาพว่าเป็นประสบการณ์ที่เข้มข้นและน่าหลงใหล ซึ่งมีทั้งความสูงของความรักและความรัก และความต่ำของความหึงหวง ความเป็นเจ้าของ และความโดดเดี่ยว ท้ายที่สุด พลวัตระหว่างคนทั้งสองนี้ถูกนำเสนอว่าเป็นการเต้นรำที่ไม่ธรรมดาของความใกล้ชิดและความเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นสมดุลที่ซับซ้อนซึ่งจะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ ในแง่หนึ่ง 'Priscilla' ไม่เพียงแต่描绘ภาพบุคคลที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังสำรวจความปรารถนาของมนุษย์ในการเชื่อมต่อและความรัก เผยให้เห็นว่าแม้แต่การเผชิญหน้าที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นทั้งภาพเหมือนที่แสนเศร้าและใกล้ชิดของความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งโดดเด่นด้วยความเย้ายวนใจ ดนตรี และความหลงใหล และเป็นการสำรวจยุคที่ล่วงเลยไปซึ่งจะดึงดูดผู้ชมไปตลอดกาลและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการพิจารณาถึงธรรมชาติที่ fleeting ของชีวิตและพลังที่ไม่สามารถลบล้างได้ของความสัมพันธ์ของมนุษย์

วิจารณ์