ผู้ตั้งถิ่นฐาน

ผู้ตั้งถิ่นฐาน

พล็อต

ภาพยนตร์เรื่อง 'ผู้ตั้งถิ่นฐาน' นำเสนอภาพหลอนและไร้ความปราณีของชีวิตที่ชานเมืองดาวอังคาร ซึ่งมนุษย์ได้หลบหนีมาเพื่อหนีความวุ่นวายของโลก เราพบว่าตัวเองอยู่ร่วมกับเรมมี เด็กสาวที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับโลกที่โหดร้ายและไม่ให้อภัย เมื่อเรื่องราวคลี่คลาย เราจะได้รับการนำเสนอในรูปแบบภาพสามส่วน ซึ่งประกอบด้วยสามส่วนที่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างความเป็นจริงและความเหนือจริงพร่ามัว และความจริงของเรมมีก็ค่อยๆ คลี่คลาย ส่วนแรกของภาพยนตร์แนะนำให้เรารู้จักกับเรมมี พ่อแม่ของเธอ และวิถีชีวิตที่แปลกประหลาดของพวกเขาในแถบชานเมืองดาวอังคาร พวกเขาใช้ชีวิตที่ดูเหมือนดั้งเดิม โดยอาศัยวัสดุที่เก็บมาก่อสร้างบ้านพักชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ภายใต้พื้นผิว เราสัมผัสได้ถึงความซับซ้อนและความซับซ้อนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พ่อแม่ของเรมมีเป็นผู้ลี้ภัยจากโลก ซึ่งนำเอาสัมภาระทางอารมณ์และความขัดแย้งของตนเองมาสู่ดาวเคราะห์สีแดง การกระทำและการตัดสินใจของพวกเขาบ่งบอกถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนให้เติมเต็มผ่านคำแนะนำและการบอกใบ้ที่ละเอียดอ่อน เมื่อเราเข้าสู่โลกของ 'ผู้ตั้งถิ่นฐาน' เราตระหนักถึงพื้นที่อันกว้างใหญ่และแห้งแล้งของภูมิประเทศดาวอังคารที่ทอดยาวเลยเนินเขาออกไป ที่นี่เองที่เราพบสัญญาณรบกวนครั้งแรก เมื่อคนแปลกหน้าเริ่มปรากฏตัวในระยะไกล บุคคลเหล่านี้ถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ ความตั้งใจของพวกเขาไม่ชัดเจน และการปรากฏตัวของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็ส่งผลกระทบต่อความไม่สบายใจไปทั่วทั้งชุมชน ปฏิกิริยาของเรมมีบ่งบอกได้ดี เนื่องจากในตอนแรกเธอระมัดระวัง แต่ก็หลงใหลในคนแปลกหน้าด้วย โดยสัมผัสได้ว่าพวกเขาอาจเป็นกุญแจสำคัญในการอยู่รอดและความสุขของครอบครัวเธอ ส่วนที่สองของภาพยนตร์แสดงให้เห็นถึงการมาถึงของคนแปลกหน้า ซึ่งถูกเปิดเผยว่าเป็นผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ จากโลก กำลังมองหาทรัพยากรและที่พักพิง อย่างไรก็ตาม จำนวนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเมื่อเรื่องราวดำเนินไป และเป็นที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาเป็นกองกำลังแห่งความโกลาหล คุกคามความสงบสุขที่เปราะบางที่ครอบครัวของเรมมีได้ก่อตั้งขึ้นบนดาวอังคาร เมื่อความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น เรมมีจึงถูกบังคับให้สำรวจพลวัตที่ซับซ้อนที่เกิดขึ้น โดยติดอยู่ระหว่างความปรารถนาที่จะช่วยคนแปลกหน้าและปกป้องผลประโยชน์ของครอบครัวเธอ ตลอดส่วนนี้ ความรู้สึกไม่สบายใจและความตึงเครียดจะเพิ่มขึ้น เมื่อโลกของเรมมีเริ่มพังทลายลง ความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแม่ถูกทดสอบ และขอบเขตระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการเริ่มพร่ามัว การทำงานของกล้องและการถ่ายภาพยนตร์เสริมสร้างความรู้สึกไม่สบายใจ โดยใช้ช็อตยาวและช็อตมุมกว้างเพื่อสื่อถึงความกว้างใหญ่และความโดดเดี่ยวของภูมิทัศน์ดาวอังคาร ดนตรีประกอบก็คุ้มค่าที่จะสังเกตเช่นกัน ในฐานะเพลงประกอบหลอนและบรรยากาศที่เติมเต็มฉากบนหน้าจอ ดึงผู้ชมเข้าสู่ใจกลางของเรื่องราว ส่วนที่สามและส่วนสุดท้ายของภาพยนตร์คือจุดที่เรื่องราวถึงจุดไคลแม็กซ์ เมื่อเรมมีสำรวจภูมิประเทศที่ทรยศของชุมชนของเธอ เธอเริ่มตระหนักว่าคนแปลกหน้าอาจไม่ได้เป็นศัตรูอย่างที่พวกเขาปรากฏในตอนแรก อย่างไรก็ตาม ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว และความสงบสุขที่เปราะบางที่ครอบครัวของเรมมีได้ก่อตั้งขึ้นบนดาวอังคารก็ได้ถูกทำลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้พุ่งเข้าสู่จุดจบ โดยเรมมีถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับแง่มุมที่มืดมนของธรรมชาติของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่รกร้างและไร้ความปราณีนี้ ท้ายที่สุด 'ผู้ตั้งถิ่นฐาน' นำเสนอภาพที่สะเทือนใจและน่ากังวลของการดำรงอยู่ของมนุษย์บนดาวอังคาร ที่ซึ่งการเอาชีวิตรอดเป็นการต่อสู้ประจำวัน และเส้นแบ่งระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการพร่ามัวอยู่ตลอดเวลา ด้วยโครงสร้างแบบภาพสามส่วน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดลักษณะที่ไม่ต่อเนื่องและสับสนของการใช้ชีวิตในโลกต่างดาวนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ เราถูกทิ้งไว้ให้ครุ่นคิดถึงความหมายของเรื่องราวของเรมมีและผลกระทบต่ออนาคตของมนุษยชาติบนชายแดนดาวอังคาร ผู้ตั้งถิ่นฐานจะสามารถพบความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองในโลกที่ไม่ให้อภัยนี้ได้หรือไม่ หรือพวกเขาจะยอมจำนนต่อความจริงอันโหดร้ายของสภาพแวดล้อม 'ผู้ตั้งถิ่นฐาน' นำเสนอวิสัยทัศน์แห่งอนาคตที่กระตุ้นความคิดและน่าขนลุก ซึ่งจะคงอยู่ไปอีกนานหลังจากที่เครดิตฉาย

ผู้ตั้งถิ่นฐาน screenshot 1
ผู้ตั้งถิ่นฐาน screenshot 2
ผู้ตั้งถิ่นฐาน screenshot 3

วิจารณ์