The Descent: Part 2 (Part 2 พลิกปริศนา...ปิดนรก)

The Descent: Part 2 (Part 2 พลิกปริศนา...ปิดนรก)

พล็อต

The Descent: Part 2 เริ่มต้นจากจุดที่ภาพยนตร์เรื่องแรกจบลง โดย ซาราห์ คาร์เตอร์ (Shauna Macdonald) หนีออกจากถ้ำและสัตว์ประหลาดที่ซุ่มซ่อนอยู่ภายใน แม้ว่าเธอจะหนีรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ประสบการณ์อันเลวร้ายก็ทำให้เธอสั่นคลอนและมีแผลเป็นทางอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอกลับขึ้นสู่โลกเบื้องบน ซาราห์ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าไม่มีใครเชื่อเรื่องราวเกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัวใต้ดินที่เธอเผชิญ และไม่มีใครเข้าใจถึงขอบเขตของการทดสอบอันสาหัสของเธอ ตำรวจ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมงานบางคนของซาราห์ พยายามสอบปากคำเธอ แต่เธอก็พยายามที่จะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ำลึก ความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของเพื่อนที่หายตัวไปยิ่งทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้น สถานการณ์ของซาราห์ก็ยิ่งเลวร้ายลง และเธอเริ่มหมดหวัง เมื่อไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมและขาดความเข้าใจจากคนรอบข้าง ซาราห์ก็เผชิญหน้ากับจูโน (Nora-Jane Noone) น้องสาวที่เหินห่าง ซึ่งรู้สึกว่าถูกบังคับให้เข้ามาแทรกแซงและให้การสนับสนุน แม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับน้องสาวจะไม่ราบรื่นนัก แต่ซาราห์ก็พบความสบายใจในตัวจูโน และเริ่มเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดำเนินไป จูโนและคนอื่นๆ โน้มน้าวให้ซาราห์เชื่อว่าเธอมีความรับผิดชอบในการช่วยค้นหาเพื่อนที่หายตัวไป การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ซาราห์ต้องเผชิญกับการเดินทางที่อันตรายเมื่อเธอถูกบังคับให้กลับไปยังถ้ำใต้ดินอีกครั้ง เมื่อลงไปยังอุโมงค์ที่มืดและชื้นอีกครั้ง ความรู้สึกไม่สบายใจของซาราห์ก็ท่วมท้นอย่างรวดเร็ว และเธอถูกระดมยิงด้วยภาพย้อนหลังของความหวาดกลัวที่เธอทนอยู่ในภาพยนตร์เรื่องแรก เมื่อเธอกลับมาที่ถ้ำ ซาราห์ก็ค้นพบว่าพบศพหลายศพที่ทางเข้าถ้ำ รวมถึง Samantha ที่ถูกฆ่าในภาพยนตร์เรื่องแรก การค้นพบนี้มีแต่จะเพิ่มความตึงเครียด เนื่องจากซาราห์ตระหนักว่าเธอไม่แน่ใจว่าสิ่งมีชีวิตยังคงเคลื่อนไหวอยู่หรือไม่ และเพื่อนของเธออาจยังมีชีวิตอยู่ ภารกิจของเธอในการค้นหาเพื่อนที่หายตัวไปตอนนี้กลายเป็นการผสมผสานระหว่างความหวาดหวั่นและความมุ่งมั่น แม้จะลังเลในตอนแรก แต่ซาราห์ก็เข้าร่วมกับนักสำรวจถ้ำในท้องถิ่นชื่อมาร์แชล ซึ่งจัดหาอุปกรณ์และความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการนำทางอุโมงค์ที่ทรยศด้วยกัน พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางที่พาพวกเขาไปสู่ส่วนลึกของสิ่งที่ไม่มีใครรู้จัก โดยแต่ละการค้นพบใหม่จะยิ่งเพิ่มความรู้สึกหวาดกลัวที่แทรกซึมอยู่ในภาพยนตร์ ตลอดภาคที่สอง ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเมื่อบรรยากาศที่อึดอัดและความรู้สึกโดดเดี่ยวเริ่มกัดกินสภาพจิตใจที่เปราะบางของซาราห์อยู่แล้ว การดำดิ่งสู่ความบ้าคลั่งของเธอกลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน โดยได้รับแรงหนุนจากเครื่องเตือนใจอย่างต่อเนื่องถึงประสบการณ์อันแสนสาหัสครั้งก่อนของเธอ ขณะที่เธอสำรวจอุโมงค์ที่ซับซ้อน การรับรู้ของซาราห์ก็เริ่มพร่ามัว และเธอก็เริ่มแยกแยะความจริงออกจากจินตนาการที่ลุกเป็นไฟของตัวเองได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ในท้ายที่สุด การแสวงหาของซาราห์ในการค้นหาเพื่อนที่หายตัวไปของเธอทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้าที่น่าสยดสยองกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เธอเผชิญหน้าในภาพยนตร์เรื่องแรก แม้ว่าจะเป็นที่ชัดเจนว่าเพื่อนบางคนของเธออาจพบกับจุดจบที่น่าเศร้า แต่คนอื่นๆ อาจยังมีชีวิตอยู่ และความสิ้นหวังของซาราห์ที่จะช่วยพวกเขาไว้มีแต่จะเพิ่มความตึงเครียดให้สูงขึ้น เมื่อภาพยนตร์ดำเนินไปสู่จุดสุดยอด ซาราห์พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ที่มีอยู่จริง เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่เธอเกลียดและกลัว การกระทำดังกล่าวเปิดเผยในการเสนอราคาอย่างสิ้นหวังเพื่อเอาชีวิตรอด โดยซาราห์ถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับส่วนลึกที่มืดมิดที่สุดของจิตใจของเธอเองเพื่อเผชิญหน้ากับความน่าสะพรึงกลัวที่รายล้อมเธอ The Descent: Part 2 คือคลาสมาสเตอร์ในการสร้างความตึงเครียดและสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการเสริมสร้างมรดกของรุ่นก่อนต่อไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวและเป็นภาพได้อย่างเชี่ยวชาญ โดยการเดินทางทางอารมณ์และจิตใจของซาราห์ คาร์เตอร์ ทำหน้าที่เป็นจุดสนใจ ไม่ว่าเธอจะสามารถช่วยเหลือเพื่อนที่หายตัวไปหรือรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ได้หรือไม่นั้นยังคงเป็นคำถามที่แขวนอยู่บนความสมดุลอย่างไม่แน่นอน ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่ฉากสุดท้ายที่ทั้งน่าใจหายและน่าจดจำ

The Descent: Part 2 (Part 2 พลิกปริศนา...ปิดนรก) screenshot 1
The Descent: Part 2 (Part 2 พลิกปริศนา...ปิดนรก) screenshot 2
The Descent: Part 2 (Part 2 พลิกปริศนา...ปิดนรก) screenshot 3

วิจารณ์