Time Lapse: ปริศนาภาพถ่ายทำนายอนาคต

พล็อต
ในภาพยนตร์เรื่อง Time Lapse, เพื่อนสามคนคือ แคลลี (แดเนียลลา อลอนโซ), บรี (โอลิเวีย เทย์เลอร์ ดัดลีย์) และนีน่า (แอนน์ ดูเด็ก) อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกันในลอสแอนเจลิส แคลลี ผู้มีความมุ่งมั่นจะเป็นศิลปิน พยายามหาเลี้ยงชีพจากการวาดภาพ ในขณะที่บรีเป็นพนักงานเสิร์ฟที่มีความฝันอยากเป็นนักออกแบบแฟชั่น ส่วนนีน่าเป็นนักเขียนอิสระที่พยายามหาแรงบันดาลใจสำหรับนวนิยายเรื่องต่อไปของเธอ แม้ว่าพวกเธอจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน แต่เพื่อนทั้งสามก็สร้างความผูกพันที่แข็งแกร่ง โดยมักจะช่วยเหลือและให้กำลังใจซึ่งกันและกันในยามที่ต้องการ วันหนึ่ง ชีวิตของพวกเธอก็พลิกผันอย่างไม่คาดฝัน เมื่อพวกเธอไปพบกล้องโบราณลึกลับในห้องเก็บของของอพาร์ตเมนต์ กล้องดูเหมือนของเก่าแก่ โดยไม่มีแบรนด์หรือรุ่นใดๆ เขียนไว้ ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เพื่อนทั้งสามจึงเริ่มทดลองใช้กล้อง และพวกเธอก็ประหลาดใจเมื่อพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถถ่ายภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าได้ ในขั้นต้น เพื่อนๆ มองว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้รับความได้เปรียบอย่างไม่น่าเชื่อในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงานของพวกเขา แคลลีวาดภาพถึงอาชีพศิลปะของเธอที่กำลังรุ่งโรจน์ เมื่อเธอค้นพบรายละเอียดที่แน่นอนของงานแสดงศิลปะและเทรนด์ที่จะเกิดขึ้น บรีทำนายว่าสไตล์และเทรนด์แฟชั่นใดที่จะครองตลาดในฤดูกาลนั้นๆ และเธอเริ่มใช้ข้อมูลเชิงลึกนี้เพื่อสร้างสรรค์การออกแบบที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นีน่าหวังว่าจะเขียนนวนิยายขายดี โดยใช้ความสามารถที่ค้นพบใหม่ของเธอในการมองเห็นอนาคตและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวใหญ่เรื่องต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ กลับพลิกผันไปในทางมืด เมื่อเพื่อนๆ เริ่มได้รับภาพถ่ายที่น่าตกใจและเป็นลางร้าย ภาพเหล่านั้นเผยให้เห็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวกว่าที่ใครๆ คาดการณ์ไว้ ภาพอนาคตเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่าแฟนหนุ่มคนใหม่ของบรีเข้าไปพัวพันกับการปล้นที่ผิดพลาด ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงและผลกระทบที่ร้ายแรงได้ ภาพถ่ายอีกภาพหนึ่งแสดงให้เห็นไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่โหมกระหน่ำทั่วทั้งอพาร์ตเมนต์ของเพื่อนๆ ซึ่งคุกคามชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นทุกคน เมื่อเหตุการณ์ที่ปรากฏในภาพถ่ายเริ่มเกิดขึ้นจริง แคลลี บรี และนีน่าตระหนักว่าการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องจักรได้ทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง ในตอนแรก เพื่อนๆ ต่างลังเลใจระหว่างความปรารถนาในผลประโยชน์ส่วนตัวกับความกลัวที่เพิ่มขึ้นต่อภาพต่างๆ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พวกเขาพยายามโน้มน้าวตัวเองว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือความผิดปกติ แต่ความเป็นจริงของสถานการณ์กลับยากที่จะเพิกเฉยมากขึ้นเรื่อยๆ คืนหนึ่ง นีน่าเริ่มสงสัยว่ากล้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นในครั้งแรก เธอเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องลึกลับนี้ทางเว็บและในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซึ่งนำเธอไปสู่โพสต์ออนไลน์ที่คลุมเครือ ซึ่งบอกเป็นนัยถึงอุปกรณ์ที่คล้ายกันที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ชั่วร้าย โพสต์ดังกล่าวจุดชนวนความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นภายในจิตใจของเพื่อนๆ ที่เริ่มตั้งคำถามถึงธรรมชาติที่แท้จริงของเครื่องจักร มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างที่พวกเขาคิดไว้ในตอนแรกหรือไม่ หรือมันถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายอื่นใด แม้จะมีสัญญาณที่น่ากลัว แต่ความสิ้นหวังของบรีที่จะใช้ภาพถ่ายสำหรับแบรนด์แฟชั่นของเธอก็มีชัย เธอตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อความเสี่ยงและใช้กล้องต่อไปเพื่อทำนายเทรนด์ล่าสุด ซึ่งมีแต่จะเพิ่มความหวาดระแวงและความกลัวของเธอ เพื่อนอีกสองคนพยายามเตือนเธอไม่ให้ใช้เครื่องจักร แต่เธอปฏิเสธที่จะฟัง เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายและภาพถ่ายเริ่มน่าตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนๆ ก็พบว่าตัวเองติดอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง โดยมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ในฉากที่ตึงเครียดและน่าตื่นเต้น พวกเขาพยายามเอาชนะโชคชะตาที่บอกไว้ในภาพถ่าย แต่ความพยายามของพวกเขากลับไร้ผลในที่สุด ผลกระทบที่แท้จริงของการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องจักรกลายเป็นที่ประจักษ์อย่างน่าสยดสยอง และเพื่อนๆ ถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับธรรมชาติที่มืดมิดและไม่รู้จักให้อภัยของอนาคตที่กล้องลึกลับเปิดเผยให้พวกเขาเห็น ในท้ายที่สุด Time Lapse กลายเป็นการสำรวจที่น่าติดตามเกี่ยวกับความปรารถนาของมนุษย์ที่จะโกงโชคชะตาและได้รับความได้เปรียบเหนือสิ่งที่ไม่รู้จัก ภาพยนตร์เรื่องนี้เผยให้เห็นอย่างเชี่ยวชาญว่าการกระทำที่เป็นเจตนาดีที่สุดสามารถลุกลามไปสู่ความสับสนวุ่นวายและความสิ้นหวังได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรวมเข้ากับพลังในการมองเห็นอนาคต The Movie เป็นคำเตือนที่น่าขนลุกว่าความจริงมักจะดีกว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่สำรวจ
วิจารณ์
คำแนะนำ
