เทพธิดาฟันน้ำนม

เทพธิดาฟันน้ำนม (Tooth Fairy) ที่ออกฉายในปี 2010 เป็นภาพยนตร์ตลก กำกับโดย ไมค์ ไวทาร์ อดีตนักเบสบอลเมเจอร์ลีกที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย ดเวย์น "เดอะร็อค" จอห์นสัน รับบทเป็น เดเร็ก ทอมป์สัน นักกีฬาฮอกกี้นอกลีกผู้มีชื่อเสีย(ง)งในด้านความเถื่อน และมีชื่อเสียงในการทำให้ฟันคู่ต่อสู้หลุดทุกครั้งที่ลงสนาม เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ "เทพธิดาฟันน้ำนม" รูปร่างหน้าตาของเขาเป็นสิ่งที่น่าเกรงขามในโลกของฮอกกี้อาชีพ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดเร็กได้พบกับเด็กชายชื่อ โคดี้ พิกเก็ต (เชส เอลลิสัน) ผู้ซึ่งหมดศรัทธาในเวทมนตร์ของเทพธิดาฟันน้ำนมเนื่องจากพฤติกรรมที่โหดร้ายของเดเร็กบนลานน้ำแข็ง โลกของเขาก็กลับตาลปัตร พ่อของโคดี้ (สตีเฟน รูท) เป็นแฟนฮอกกี้ตัวยงและหมกมุ่นอยู่กับวีรกรรมของ "เทพธิดาฟันน้ำนม" มาก จนทำให้ลูกชายของเขาหมดศรัทธาในแนวคิดที่ว่าบุคคลในตำนานอย่างเทพธิดาฟันน้ำนมจะเก็บฟันของเด็ก ๆ เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับความประพฤติดี เพื่อเป็นการซ้ำเติม โคดี้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงเดเร็ก โดยตำหนิพฤติกรรมที่โหดร้ายของเขาบนลานน้ำแข็ง และแสดงความผิดหวังที่เทพธิดาฟันน้ำนมสูญเสียมนต์ขลังที่เคยเป็นตัวแทนไป จดหมายตกไปอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ผู้ซึ่งรู้สึกประทับใจในความรู้สึกนั้นมาก จนตัดสินให้เดเร็กทำหน้าที่เป็นเทพธิดาฟันน้ำนมตัวจริงที่สวมชุดบัลเลต์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ในตอนแรก เดเร็กรู้สึกหวาดกลัวต่อการต้องสวมชุดบัลเลต์และเก็บฟันของเด็ก ๆ เพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมเล็กน้อยและหน้ายิ้ม เขาเห็นว่ามันเป็นการลดทอนความเป็นชาย และรู้สึกตกใจกับความคิดที่จะต้องสละภาพลักษณ์ของคนที่ดูแข็งกร้าวเพื่อกลายเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดในสายตาของเด็ก ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเริ่มดำรงตำแหน่งเป็นเทพธิดาฟันน้ำนม เดเร็กก็ถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับความเป็นจริงของสถานการณ์และผลกระทบที่พฤติกรรมของเขามีต่อเด็ก ๆ ที่เขาได้สร้างความหวาดกลัวให้บนลานน้ำแข็ง ขณะที่เดเร็กเริ่มออกเดินทาง เขาก็ได้พบกับเพื่อนร่วมงานใจดีชื่อ Tanya (สเตฟานี่ โซสแทค) ผู้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกสิ่งที่เป็นเทพธิดาฟันน้ำนม Tanya รับเดเร็กเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของเธอ และสอนเขาเกี่ยวกับวิถีแห่งเทพธิดาฟันน้ำนม ตั้งแต่การเก็บฟันและการให้เงิน ไปจนถึงการสร้างความทรงจำพิเศษให้กับเด็ก ๆ ที่ฟันหลุด ในตอนแรก เดเร็กรู้สึกต่อต้านความพยายามของ Tanya ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของเทพธิดาฟันน้ำนม แต่เมื่อเขาได้สัมผัสกับเวทมนตร์ของงานด้วยตนเอง เขาก็เริ่มมองเห็นสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองที่แตกต่างออกไป เด็กคนแรกที่เดเร็กได้พบคือเด็กหญิง Carly (แมดิสัน เพ็ตติส) ซึ่งสูญเสียฟันซี่แรกไปเนื่องจากฟันกรามล่างอุดหลวม ขณะที่เดเร็กเข้าใกล้เตียงนอนของ Carly เขาก็รู้สึกทึ่งและแปลกใจที่เธอรู้สึกได้ในการปรากฏตัวของเขา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดเร็กได้เห็นเทพธิดาฟันน้ำนมผ่านสายตาของเด็ก และเขาเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของบทบาทที่เขากำลังเล่น เมื่อวันเวลาผ่านไป เดเร็กก็เริ่มมีทักษะในการเก็บฟันและทิ้งของขวัญไว้แทนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาพบว่าเขามีความถนัดตามธรรมชาติสำหรับงานนี้ และเขาทำมันได้ดีจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ความซาบซึ้งที่เดเร็กค้นพบใหม่ในเทพธิดาฟันน้ำนมก็ถูกทดสอบอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาถูกบังคับให้ต้องรับมือกับเด็กที่ดื้อรั้นชื่อ Gary (แบรนดอน ที. แจ็คสัน) ผู้ซึ่งปฏิเสธที่จะปล่อยฟันที่หลุดของเขาไป การที่ Gary ปฏิเสธที่จะสละฟันของเขาก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ของเหตุการณ์ที่ทำให้ตำแหน่งทั้งหมดของเดเร็กในฐานะเทพธิดาฟันน้ำนมตกอยู่ในความเสี่ยง เดเร็กหมดหวังที่จะแก้ไขสถานการณ์ จึงหันไปขอความช่วยเหลือจาก Tanya และพวกเขาก็ร่วมกันวางแผนที่จะเก็บฟันและฟื้นฟูความสมดุลของจักรวาลแห่งเทพธิดาฟันน้ำนม ขณะที่เดเร็กและ Tanya พยายามแก้ไขวิกฤต เดเร็กก็เริ่มตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของภารกิจของเทพธิดาฟันน้ำนม เขาเห็นว่าบทบาทนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเก็บฟันและการให้ของขวัญเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการสร้างความทรงจำพิเศษให้กับเด็ก ๆ และส่งเสริมความรู้สึกทึ่งและเวทมนตร์ในชีวิตของพวกเขา ประสบการณ์ของเดเร็กในฐานะเทพธิดาฟันน้ำนมมีผลกระทบอย่างมากต่อเขา และในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงความสำคัญของการจุดประกายความฝันวัยเยาว์ของเขาเองอีกครั้ง และค้นพบมนต์ขลังของวัยเด็ก ท้ายที่สุด เดเร็กก็สำเร็จการดำรงตำแหน่งเป็นเทพธิดาฟันน้ำนมด้วยความซาบซึ้งที่ค้นพบใหม่ในบทบาทนี้ และความรู้สึกถึงจุดมุ่งหมายที่กลับมา เขาออกจากตำแหน่งด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขและความคิดที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ และกลับไปใช้ชีวิตในฐานะนักกีฬาฮอกกี้ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความเห็นอกเห็นใจที่ค้นพบใหม่