Wild ผจญภัยสุดขั้วหัวใจ

พล็อต
Wild คือภาพยนตร์ดราม่าชีวประวัติอเมริกันปี 2014 กำกับโดย ฌอง-มาร์ค วัลเล่ ซึ่งดัดแปลงจากบันทึกความทรงจำของ เชอรีล สเตรด เรื่อง "Wild: From Lost to Found on the Pacific Crest Trail" เรื่องราวหมุนรอบ เชอรีล สเตรด รับบทโดย รีส วิเธอร์สปูน หญิงสาวที่พยายามรับมือกับการสูญเสียแม่และการล่มสลายของครอบครัว ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยเชอรีลได้รับข่าวร้ายว่าแม่ของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง การจากไปของแม่เป็นชนวนเหตุให้เชอรีลเริ่มตั้งคำถามกับการเลือกในอดีตและเส้นทางชีวิตของเธอ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวเยาว์วัยที่แสนเจ็บปวดของเชอรีล ซึ่งเธอตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อยและมีความสัมพันธ์กับชายที่กลายเป็นคนทำร้ายร่างกาย อดีตอันแสนเจ็บปวดนี้ตามหลอกหลอนเชอรีลในขณะที่เธอต้องต่อสู้กับความรับผิดชอบของการเป็นแม่และความปรารถนาที่จะทิ้งความสัมพันธ์ที่วุ่นวายไว้เบื้องหลัง ด้วยความรู้สึกอึดอัดและหลงทาง เชอรีลเริ่มต้นการเดินทางที่ทะเยอทะยานโดยตัดสินใจเดินป่า Pacific Crest Trail (PCT) ซึ่งเป็นเส้นทาง 1,100 ไมล์ที่ทอดยาวจากชายแดนแคลิฟอร์เนีย-เม็กซิโกไปจนถึงชายแดนวอชิงตัน-แคนาดา ด้วยความตั้งใจเพียงอย่างเดียวที่จะเยียวยาและค้นพบตัวเอง เชอรีลออกเดินทางพร้อมแบกเป้ที่เต็มไปด้วยเสบียงและความมุ่งมั่น เมื่อเชอรีลเริ่มต้นการเดินทาง เธอได้พบกับตัวละครที่หลากหลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการเติบโตของเธอในฐานะบุคคล มี บ็อบ ชายสูงอายุที่ให้คำแนะนำอันชาญฉลาดและกลายเป็นบุคคลที่เป็นเหมือนพ่อของเธอ กลุ่มนักเดินป่ารุ่นเยาว์ที่ในตอนแรกทำให้เธอกลัว แต่กลายเป็นเพื่อนของเธอ และ R.I.P. (Rest in peace) ป้ายบอกทางที่เชอรีลรับมาเป็นเพื่อนของเธอเอง ตัวละครแต่ละตัวเหล่านี้ทิ้งความประทับใจที่ยั่งยืนให้กับเชอรีลและช่วยในกระบวนการค้นพบตัวเองของเธอ ตลอดทั้งภาพยนตร์ ทิวทัศน์นั้นน่าทึ่ง เผยให้เห็นถึงภูมิประเทศที่กว้างใหญ่และความยิ่งใหญ่ของความรกร้างว่างเปล่าของอเมริกา การถ่ายทำภาพยนตร์จับภาพความแตกต่างระหว่างความงามอันเงียบสงบของธรรมชาติและความวุ่นวายภายในของเชอรีลได้อย่างสวยงาม ขณะที่เธอเดินทางผ่านป่า เชอรีลต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงภูมิประเทศที่ทรยศ สภาพอากาศที่รุนแรง และการเผชิญหน้ากับสัตว์ป่า การทดลองเหล่านี้บังคับให้เธอเผชิญหน้ากับข้อจำกัดของตัวเองและเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่โหดร้ายในชีวิตของเธอ หนึ่งในแง่มุมที่กินใจที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือวิธีที่สำรวจโลกภายในของเชอรีล ขณะที่เธอเดินป่า เธอเขียนจดหมายถึงพ่อที่เหินห่างของเธอ ซึ่งทอดทิ้งเธอไปเมื่อเธอยังเด็ก จดหมายเหล่านี้เป็นเหมือนการปลดปล่อยอารมณ์สำหรับเชอรีล ทำให้เธอสามารถเผชิญหน้ากับอดีตและความรู้สึกที่มีต่อพ่อของเธอได้ การเดินทางของเธอยังถูกทำเครื่องหมายด้วยภาพย้อนหลังมากมายที่เผยให้เห็นพลวัตของครอบครัวเธอและสถานการณ์ที่นำไปสู่ความหายนะของครอบครัวเธอ รีส วิเธอร์สปูน ถ่ายทอดการแสดงที่ทรงพลังในบทเชอรีล นำความลึกและความอ่อนแอมาสู่ตัวละคร ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังโดดเด่นจากการนำเสนอผู้หญิงในป่าอย่างแท้จริง ซึ่งมักถูกแสดงให้เห็นในวรรณกรรมและสื่อว่าเป็นคนที่ทำอะไรไม่เป็นหรือไม่สามารถทำอะไรได้เลย ในทางกลับกัน เชอรีลถูกแสดงให้เห็นว่าแข็งแกร่งและมีความสามารถ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่แท้จริงของผู้หญิงหลายคนที่ได้เริ่มต้นการเดินทางที่คล้ายกันในอดีต เมื่อเชอรีลใกล้จะสิ้นสุดการเดินทาง เธอต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการเผชิญหน้ากับหมีที่ทำให้เธอสั่นคลอนและได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือจากผู้คนที่เธอพบและความยืดหยุ่นของเธอเอง เชอรีลยังคงเดินหน้าต่อไป จนกระทั่งเสร็จสิ้นการเดินทางที่ชายแดนแคนาดา ภาพยนตร์จบลงด้วยเชอรีลไตร่ตรองถึงการเดินทางของเธอ โดยตระหนักว่าเธอได้ค้นพบความหมายและจุดมุ่งหมายใหม่ในชีวิต ประสบการณ์ของเธอบน PCT ทำให้เธอสามารถเผชิญหน้ากับอดีต รักษาบาดแผล และได้รับความซาบซึ้งในความงามของธรรมชาติ เมื่อเธอกลับบ้าน เชอรีลไม่ใช่คนเดิมที่ออกเดินทาง เธอแข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และมั่นใจมากขึ้น พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายในชีวิตของเธอ
วิจารณ์
