Freud's Last Session (ฟรอยด์ ปะทะ พระเจ้า)

Freud's Last Session (ฟรอยด์ ปะทะ พระเจ้า)

พล็อต

Freud's Last Session คือภาพยนตร์ดราม่ากระตุ้นความคิดที่ร้อยเรียงชีวิตของนักคิดที่ทรงอิทธิพลที่สุดสองคนในศตวรรษที่ 20 เข้าด้วยกัน: ซิกมุนด์ ฟรอยด์ บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ และ ซี.เอส. ลูอิส นักเขียนและนักปรัชญาชื่อดัง ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากอยู่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกกำลังจะเข้าสู่ความวุ่นวาย และสองปัญญาชนมาพบกันเพื่อเผชิญหน้ากัน ซึ่งจะทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกไว้ในชีวิตของพวกเขา เรื่องราวเริ่มต้นในแฟลตในลอนดอน ที่ซึ่งซี.เอส. ลูอิสเดินทางมาเพื่อท้าทายมุมมองของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ เพื่อนและอาจารย์ของเขา ลูอิส ผู้ซึ่งเป็นคริสเตียนที่เคร่งศาสนา มาเพื่อนำเสนอหนังสือเล่มล่าสุดของเขา 'Mere Christianity' ให้กับบิดาแห่งจิตวิเคราะห์ ด้วยความหวังว่าจะโน้มน้าวให้เขาเชื่อในการมีอยู่ของพระเจ้า ฟรอยด์ ผู้ซึ่งเป็นผู้ไม่เชื่อในพระเจ้าอย่างแน่วแน่ ในตอนแรกไม่ประทับใจ แต่เมื่อการสนทนาดำเนินไป เขาก็เริ่มสนใจในข้อโต้แย้งของลูอิสมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ชายทั้งสองมีส่วนร่วมในการโต้วาทีและการอภิปราย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสลับไปมาระหว่างปัจจุบันและอดีตอย่างราบรื่น โดยแนะนำให้เราได้รู้จักกับเหตุการณ์และประสบการณ์สำคัญที่หล่อหลอมมุมมองของพวกเขา เราได้เห็นภาพชีวิตในวัยเด็กของฟรอยด์ในเวียนนา ซึ่งเขาเริ่มพัฒนาทฤษฎีจิตวิเคราะห์เป็นครั้งแรก นอกจากนี้เรายังได้เห็นการเปลี่ยนศาสนาของลูอิสเป็นคริสต์ศาสนา ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์ของเขาไปตลอดกาล เรื่องเล่าถูกสอดแทรกด้วยฉากแฟนตาซี พาเราไปยังดินแดนที่ขอบเขตของความเป็นจริงพร่ามัว ตัวอย่างเช่น เราเห็นจิตใจของฟรอยด์เป็นป่าทึบ ซึ่งต้นไม้เป็นตัวแทนของความคิดและความปรารถนาที่ซ่อนเร้นที่เขาพยายามจะควบคุมไว้ ในขณะเดียวกัน ลูอิสถูกวาดภาพเป็นผู้นำทางที่ช่วยให้ฟรอยด์นำทางภูมิประเทศที่ทรยศนี้ ซึ่งแสงแห่งความหวังและการไถ่บาปกำลังเริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อการสนทนาระหว่างฟรอยด์และลูอิสทวีความรุนแรงขึ้น เดิมพันก็สูงขึ้น ฟรอยด์ แม้จะมีความสงสัย แต่ก็เริ่มตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ของอำนาจที่สูงกว่า และชายทั้งสองก็มีส่วนร่วมในการโต้วาทีอย่างเร่าร้อนเกี่ยวกับธรรมชาติของศรัทธาและเหตุผล ลูอิสนำเสนอข้อโต้แย้งของเขาว่าคริสต์ศาสนาไม่ใช่แค่ชุดของหลักคำสอนเท่านั้น แต่เป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้ซึ่งมีพลังในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ความขัดแย้งหลักของภาพยนตร์เกิดขึ้นเมื่อฟรอยด์เปิดเผยอดีตอันเจ็บปวดของเขาเอง รวมถึงประสบการณ์ในวัยเด็กของเขาที่ต้องเผชิญกับความยากจนและการปฏิเสธมรดกทางศาสนายิวของเขาในเวลาต่อมา ลูอิสรับฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง เริ่มเห็นด้านมนุษย์ของชายคนนั้น และการป้องกันที่แข็งแกร่งของเขาก็เริ่มพังทลายลง จากการแลกเปลี่ยนนี้ ผู้กำกับได้ถ่ายทอดความลึกซึ้งของความสัมพันธ์ของพวกเขาและความซับซ้อนทางอารมณ์ของการโต้ตอบของพวกเขาได้อย่างเชี่ยวชาญ ในท้ายที่สุด เป็นที่ชัดเจนว่าการพบกันระหว่างฟรอยด์และลูอิสเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของแต่ละคน ฟรอยด์ เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นไปได้ของอำนาจที่สูงกว่า ก็ต้องครุ่นคิดถึงผลกระทบของการตายของตัวเอง ลูอิส เมื่อได้เห็นรอยร้าวในเกราะของฟรอยด์ ก็เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเข้าใจเพื่อนของเขา ขณะที่เมฆแห่งสงครามกำลังก่อตัวขึ้นภายนอก ฟรอยด์และลูอิสก็แยกจากกัน โดยความสัมพันธ์ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลจากการเผชิญหน้า ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยการไตร่ตรองที่เจ็บปวดเกี่ยวกับธรรมชาติที่ผันแปรของชีวิตและพลังที่ยั่งยืนของศรัทธา Freud's Last Session คือภาพยนตร์ดราม่าที่กระตุ้นความคิด ซึ่งเตือนเราว่าแม้แต่ความแตกต่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้มากที่สุดก็สามารถเชื่อมโยงได้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจ ตลอดทั้งเรื่อง เราได้เห็นแวบหนึ่งของการต่อสู้ภายในของเหล่าบุรุษ และความเสียหายทางอารมณ์ที่มุมมองโลกของพวกเขาได้ส่งผลกระทบต่อพวกเขา Freud's Last Session ไม่ใช่แค่ละครประวัติศาสตร์หรือการโต้วาทีเชิงปรัชญาเท่านั้น แต่เป็นการสำรวจสภาพของมนุษย์อย่างลึกซึ้งและเป็นส่วนตัว ภาพยนตร์เรื่องนี้เชิญชวนให้เราครุ่นคิดถึงสถานที่ของเราในโลก ตั้งคำถามกับสมมติฐานที่เรายึดถือ และพิจารณาความเป็นไปได้ที่ว่าชีวิตของเรามีความซับซ้อนและสวยงามกว่าที่เราเคยจินตนาการไว้

Freud's Last Session (ฟรอยด์ ปะทะ พระเจ้า) screenshot 1
Freud's Last Session (ฟรอยด์ ปะทะ พระเจ้า) screenshot 2
Freud's Last Session (ฟรอยด์ ปะทะ พระเจ้า) screenshot 3

วิจารณ์