เมซ รันเนอร์: สมรภูมิมอดไหม้

เมซ รันเนอร์: สมรภูมิมอดไหม้ เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟปี 2015 กำกับโดย เวส บอลล์ สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ เจมส์ แดชเนอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคที่สองในซีรีส์เกมล่าชีวิต, ต่อจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องแรก เรื่องราวเริ่มต้นด้วย โธมัส (ดีแลน โอ'ไบรอัน), ชัค (เบลก คูเปอร์), เบรนดา (เค เบลก คูเปอร์) และ มินโฮ (คี ฮง ลี) ซึ่งเป็นชาวทุ่งดั้งเดิมหลายคนจากภาพยนตร์เรื่องแรก นั่งเฮลิคอปเตอร์โดยไม่รู้ตัวว่าพวกเขากำลังถูกตามล่า พวกเขาถูกพาออกจากเขาวงกตไปยังชานเมืองของโลกที่รกร้างและหลังวันสิ้นโลก ซึ่งรู้จักกันในชื่อ สมรภูมิมอดไหม้ ที่นี่ โธมัส ตระหนักได้ในไม่ช้าว่าสมรภูมิมอดไหม้เป็นภูมิประเทศที่ทรยศและสิ้นหวัง ไม่เอื้ออำนวยต่อชีวิตมนุษย์ นี่คือที่ที่แผนการร้ายของ WCKD หรือแผนกทดลองสังหารล้างโลกในภาวะหายนะ WCKD มุ่งมั่นที่จะจับตัว โธมัส ชาวทุ่งเพียงคนเดียวที่แสดงให้เห็นถึงการต่อต้านและความฉลาดในการใช้ทรัพยากรอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเขาเป็นตัวแทนของความลับที่พวกเขากำลังค้นหา ขณะที่ โธมัส นำทางสมรภูมิมอดไหม้ เขาได้พบกับ นิวท์ (โทมัส โบรดี-แซงสเตอร์) หนึ่งในชาวทุ่งดั้งเดิมจากเขาวงกต และ อริส (อัลเดน เอห์เรนริช) ทหาร WCKD นิวท์ชักชวนให้โธมัสทิ้งเขาไว้ข้างหลัง ในขณะที่อริสวางแผนที่จะลอบสังหารโธมัสเนื่องจากประสบการณ์ที่น่าสยดสยองในอดีตที่เพื่อนของเขาถูกฆ่าโดยชาวทุ่งคนเดียวกัน ในการเผชิญหน้าที่ตึงเครียด อริสเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหตุผลในการทรยศ WCKD จากนั้นเกือบจะทรยศโธมัสที่ถูกไล่ตามหลังจากจากไป นิวท์ถูกรับตัวโดย แกลลี (วิลล์ พูเตอร์) และตัวละครอื่นๆ ของ WCKD ซึ่งเป็นการกระทำที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชาวทุ่งคนอื่นๆ กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของ WCKD ด้วยข้อตกลงที่ไม่ชัดเจน ระหว่างทางกลับสำนักงานใหญ่พร้อมกับนิวท์ที่ถูกจับตัว แกลลีวางแผนที่จะเปิดเผยความจริงของ WCKD และชาวทุ่งที่มีความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาก่อนเขาวงกต พวกเขาใช้นิวท์ซึ่งไม่ได้กำลังจะตายจริงๆ ซึ่งนิวท์ตระหนักเมื่อเห็นสภาพที่กำลังจะตายของเขา พวกเขาส่งกองเรือทั้งหมดกลับมาโดยให้แผนการที่แท้จริงของพวกเขาแก่พวกเขา เมื่อได้ยินแผนการร้ายกาจ การก่อกบฏของแกลลีและคนอื่นๆ เห็นด้วยกับ WCKD ในตอนแรกเนื่องจาก 'แผน' ของแกลลีได้ผล อย่างน้อยก็ชั่วคราว และในฐานะส่วนหนึ่งของ WCKD แม้แต่คนที่ถูกจับจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้เช่น อัลบี้ (แอ็ม อามีน) ก็ยังคงดำเนินต่อไป ในที่สุด พวกเขาทั้งหมดก็ไปถึงสำนักงานใหญ่ของ WCKD ซึ่งมีเชลยหลายคนที่ประจำการอยู่และถูกควบคุมเพื่อ 'ผู้มีภูมิคุ้มกัน' ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่แยกจากผู้คนที่มีลักษณะคล้ายชาวทุ่ง เนื่องจากความทรงจำที่ถูกจับและความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันนั้นแตกต่างกัน โธมัสค่อยๆ เปิดเผยแผนการเพื่อไปถึงความปลอดภัย และในขณะที่พยายามหลบหนี อริสแสดงความเห็นอกเห็นใจ ปล่อยสมาชิกกลุ่มต่อต้าน; ซาแมนต้า-ซาราห์ และความลับเกี่ยวกับอดีตของเขาเพื่อไถ่บาปให้ตัวเองในที่สุดนำทางทีม ด้วยความช่วยเหลือจากเบรนดา เขาปล่อยนักสู้ต่อต้านทั้งหมดในขณะที่เพื่อนของเขาติดอยู่ในเขาวงกต เหมือนกับเรื่องราวก่อนหน้านี้ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือนักสู้ทั้งหมดจากการทดลองที่น่าสยดสยองที่กำลังจะเกิดขึ้น ในช่วงตอนจบที่น่าทึ่ง ชีวิตของชาวทุ่งและคนอื่นๆ ที่ถูกจับตัวที่สำนักงานใหญ่ WCKD อาจจบลง แกลลีเปิดเผยความเป็นไปได้ที่รุนแรงที่ผู้มีภูมิคุ้มกันจากสมรภูมิมอดไหม้จะถูกเปลี่ยนไปให้ทำงานที่น่ากลัวเมื่อสถานะการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อวัตถุประสงค์ที่หายนะเพื่อให้ทำงานจากวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้น การต่อต้านที่ประกอบด้วยผู้มีภูมิคุ้มกันเดิมที่แท้จริงนั้นถูกแปลงสภาพแล้วในที่สุดก็ตกเป็นของชาวทุ่ง ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาเข้าร่วมทีมผู้มีภูมิคุ้มกันจึงต่อสู้กลับกับ WCKD ซึ่งเป็นผู้มีภูมิคุ้มกันที่แท้จริงด้วย พวกเขาจะให้สิ่งที่ WCKD ต้องการอย่างแน่นอน เช่น การวางทุกอย่างไว้บนเส้นเนื่องจากสมาชิกในทีมส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของพวกเขา จากนั้นก็เกิดใหม่จากกลุ่มภายใต้ความแข็งแกร่งของตัวเองซึ่งเป็นภาพลวงตาที่โหดร้าย ในระหว่างภารกิจที่สิ้นหวัง ซาร่าห์และคนอื่นๆ ต้องการและดิ้นรนอย่างยิ่งจนกระทั่งโธมัส มินโฮ นิวท์ และเบรนดาส่งมอบ ต่อสู้กับผู้ที่เกิดใหม่ซึ่งถูกแปลงสภาพเพื่อฆ่าในภายหลัง ที่นี่ ในขณะที่อริสให้การสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ซึ่งช่วยชาวทุ่งทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจากการต่อสู้ที่ติดอยู่ การเดินทางของพวกเขากับกองทัพ WCKD เป็นไปอย่างไร้ผลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านที่ไม่คาดฝันซึ่งสนับสนุนผู้ที่เกิดใหม่ในตอนนี้เพื่ออยู่เคียงข้างโชคชะตาของพวกเขาจนกว่าโธมัสจะยอมแพ้ให้กับบ้านใหม่ของเขา ตอนนี้เขาต้องการการต่อสู้ครั้งเก่า เขายังคิดว่ามีความเป็นไปได้ใหม่ๆ ข้างหน้าและอาจจะจากไปเพื่อชีวิตใหม่มากกว่าที่จะพยายามฆ่าใครอีกใน WCKD เมื่อจากไป อริสเข้าร่วมการต่อสู้กับสมาชิกคนอื่นๆ แม้ว่าการผูกมิตรกับพวกเขาอาจทำให้พวกเขาช้าลง เช่น การกลับไปสู่สภาพที่เป็นอยู่ จุดจบเพียงอย่างเดียวคือการรอดชีวิตของบางคน การรอดชีวิต และส่วนหนึ่งของกลุ่มถูกแยกจากกันเมื่อในที่สุดการลงจอดยาน ชาวทุ่งรู้ว่าความหวังกลับมาอีกครั้งในที่ที่การเดินทางในอดีตของพวกเขาแสดงให้เห็น