กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก

กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก

พล็อต

ในฉากหลังอันมีชีวิตชีวาและมักจะรุนแรงของเม็กซิโก เส้นแบ่งระหว่างความจงรักภักดีและการหลอกลวงเบลอเลือนอยู่ตลอดเวลา ภาพยนตร์เรื่อง "กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก" กำกับโดย โรเบิร์ต รอดริเกซ เป็นการเดินทางทางภาพยนตร์ที่พาผู้ชมโลดแล่นไปกับการผจญภัยสุดระทึกในโลกแห่งการทุจริต การแย่งชิงอำนาจ และการทรยศหักหลัง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคก่อนหน้าของผลงานเปิดตัวของผู้กำกับในปี 1992 เรื่อง "เอล มาร์เรียชี่" และนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งถักทอเข้าด้วยกันเป็นใยแมงมุมที่ซับซ้อนของตัวละครและแรงจูงใจ เรื่องราวหมุนรอบตัวละครของ จอห์นนี่ เดปป์ ในบท เฟอร์กูสัน เจ้าหน้าที่ CIA ผู้มีเสน่ห์และศีลธรรมอันกำกวม ซึ่งเริ่มรู้สึกผิดหวังกับวิธีการของหน่วยงาน ด้วยความสิ้นหวังที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองและพิสูจน์คุณค่า เฟอร์กูสันเห็นโอกาสที่จะใช้ทักษะของตนเพื่อบงการเหตุการณ์ในเม็กซิโก เขามุ่งเป้าไปที่ พันเอก อาวิล่า ซัลซิโด ผู้บัญชาการทหารระดับสูงที่แอบร่วมมือกับ เจ้าพ่อยาเสพติดไร้ความปรานี บาร์บอน คอร์เทซ เป้าหมายสูงสุดของคอร์เทซคือการวางแผนก่อรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีเม็กซิโกคนปัจจุบัน ซึ่งได้สาบานว่าจะปราบปรามอุตสาหกรรมค้ายาเสพติดที่เติบโตขึ้นในประเทศ ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อฉลและเครือข่ายหน่วยปฏิบัติการที่ภักดี คอร์เทซวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากความไร้เสถียรภาพของเม็กซิโกและเข้าควบคุมทรัพยากรของชาติ และแล้ว เอล มาร์เรียชี่ ที่รับบทโดย อันโตนิโอ บันเดรัส มือปืนผู้เชี่ยวชาญและต่อต้านวีรบุรุษ ซึ่งพบว่าตัวเองขัดแย้งกับคอร์เทซ การแสดงของบันเดรัสนำมาซึ่งความประณีตและละเอียดอ่อนให้กับตัวละคร ทำให้เขาเป็นมากกว่ามือสังหารมิติเดียว เมื่อเฟอร์กูสันเข้าหาเอล มาร์เรียชี่พร้อมข้อเสนอ ทั้งสองก็ร่วมเล่นเกมแมวไล่จับหนู ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะชิงไหวชิงพริบกันในการไล่ล่าคอร์เทซ ในขณะเดียวกัน ตัวละครของ ซัลมา ฮาเย็ค ในบท คาโรไลน่า ได้เพิ่มความซับซ้อนให้กับเรื่องราวในฐานะอดีตผู้ร่วมงานของเอล มาร์เรียชี่ ซึ่งเข้าไปพัวพันในการปฏิบัติการของคอร์เทซ ตัวละครของเธอถูกฉีกขาดระหว่างความภักดีต่อเอล มาร์เรียชี่และพันธะของเธอที่มีต่อคอร์เทซ ก่อให้เกิดความตึงเครียดที่คุกคามจะทำให้กลุ่มแตกแยก เมื่อเรื่องราวดำเนินไป เดิมพันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ และศพก็เริ่มซ้อนกัน ด้วยการพัฒนาใหม่ๆ ในแต่ละครั้ง เรื่องราวก็ยิ่งเข้มข้นและน่าระทึกใจมากขึ้น ผลักดันผู้ชมให้โลดแล่นไปกับการต่อสู้ด้วยปืน การไล่ล่าด้วยรถยนต์ และการเผชิญหน้าที่ดุเดือดอย่างไม่หยุดยั้ง หนึ่งในจุดเด่นของ "กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก" คือวิธีการนำเสนอภาพที่โดดเด่นและมีสไตล์ การใช้สีสันสดใส การทำงานของกล้องที่เคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา และเทคนิคพิเศษที่เป็นนวัตกรรมของ โรเบิร์ต รอดริเกซ สร้างประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งน่าหลงใหลและชวนสับสน การออกแบบเสียงของภาพยนตร์ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยเพลงประกอบที่เร้าใจซึ่งเสริมการกระทำบนหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดทั้งเรื่อง รอดริเกซยังสำรวจแก่นเรื่องของความจงรักภักดี การหลอกลวง และเส้นแบ่งที่พร่าเลือนระหว่างความดีและความชั่ว เฟอร์กูสัน เจ้าหน้าที่ CIA เป็นตัวอย่างสำคัญของตัวละครที่ดำเนินอยู่ในพื้นที่สีเทา โดยใช้ทักษะและทรัพยากรของตนเพื่อวัตถุประสงค์ของตนเอง ขณะที่อ้างว่าทำความดี ความไม่ชัดเจนทางศีลธรรมนี้สะท้อนจากโลกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งอยู่ — โลกที่การทุจริตและความรุนแรงเป็นสิ่งพบเห็นได้ทั่วไป และธรรมชาติที่แท้จริงของความถูกต้องและผิดมักจะไม่ชัดเจน เมื่อเรื่องราวพุ่งเข้าสู่จุดสุดยอด เอล มาร์เรียชี่พบว่าตัวเองอยู่แถวหน้าของการเผชิญหน้าอันรุนแรงระหว่างกองกำลังของคอร์เทซและรัฐบาลเม็กซิโก ด้วยเดิมพันที่สูงกว่าที่เคย มือปืนต้องเผชิญหน้ากับปีศาจภายในของตัวเองและเลือกระหว่างความภักดีต่อผู้คนที่เขาห่วงใยกับหน้าที่ในการโค่นล้มคอร์เทซ "กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก" เป็นภาพยนตร์ที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่อย่างง่ายดาย มันคือหนังสยองขวัญ ดราม่า และภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีสไตล์ในตัวเดียวกัน ด้วยตัวละครที่ซับซ้อน การดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว และสไตล์ภาพที่เป็นนวัตกรรม ถือเป็นประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่จะทำให้ผู้ชมต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้ ไม่ว่าแก่นเรื่องและตัวละครของภาพยนตร์จะเข้าถึงผู้ชมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ "กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก" เป็นภาพยนตร์ที่จะทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืม

กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก screenshot 1
กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก screenshot 2
กาลครั้งหนึ่งในเม็กซิโก screenshot 3

วิจารณ์