Unfriend request

พล็อต
Unfriend request เป็นเกมสยองขวัญอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แบบสแตนด์อโลน ถักทอเรื่องราวลึกลับที่น่าจับใจซึ่งหมุนรอบกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังค้นหาความจริงเบื้องหลังการหายตัวไปของเพื่อนคนหนึ่ง เรื่องราวของเกมนำผู้ชมผ่านมุมมองของตัวละครแปดตัวที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละคนจะต้องเดินทางลงจากภูเขาที่อันตรายเพื่อไขความจริงเบื้องหลังการหายตัวไปของเมลานี เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากการหายตัวไปของเมลานี เบธ น้องสาวของเธอ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โคลเวอร์ พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนสนิท ได้แก่ แซมและเบธ คู่รักที่มุ่งมั่น เจสสิก้า วัยรุ่นหัวขบถที่มีประวัติโชกโชนในการสร้างปัญหา เอมิลี่ สมาชิกผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของแก๊ง ไมค์ ผู้นำที่กล้าหาญ และแอชลีย์ วัยรุ่นที่ดูเงียบๆ แต่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น วางแผนที่จะไปเยี่ยมชมหุบเขาที่เมลานีหายตัวไปเมื่อปีก่อน ในการแสวงหาคำตอบ กลุ่มมุ่งหน้าไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ถูกทิ้งร้างในช่วงเริ่มต้นของค่ำคืนที่พายุโหมกระหน่ำ ในขณะที่กลุ่มสำรวจพื้นที่ที่รกร้าง ความตึงเครียดค่อยๆ เพิ่มขึ้น ค่อยๆ บอกใบ้ถึงการปรากฏตัวของฆาตกรสวมหน้ากากในเงามืด การแนะนำตัวละครยังให้เบาะแสเกี่ยวกับความขัดแย้ง ความรัก และวาระส่วนตัวก่อนหน้านี้ของพวกเขา ซึ่งเพิ่มความลึกซึ้งให้กับเรื่องราวและเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นในการค้นหาเมลานี การสำรวจของพวกเขากลับกลายเป็นเรื่องมืดมนเมื่อกลุ่มตระหนักว่ามันไม่ใช่กรณีแยกต่างหากของพลังเหนือธรรมชาติที่อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของเมลานี แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าไปพัวพันกับฆาตกรโหดเหี้ยม ที่ดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะกำจัดเพื่อนของพวกเขาทีละคน การฆาตกรรมที่น่าสยดสยองทำให้เกิดความสิ้นหวังเหนือตัวละคร โดยที่ชะตากรรมของตัวละครแต่ละตัวแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทำให้ผู้ชมรู้สึกสิ้นหวัง ไม่สามารถควบคุมความตายของพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม จุดหักมุมที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อตัวละครที่รอดชีวิตแต่ละตัวพบว่าตัวเองตื่นขึ้น กลับไปสู่จุดเริ่มต้นของคืนแห่งโชคชะตาเดียวกัน โดยไม่รู้ว่าอะไรทำให้พวกเขาหวนระลึกถึงประสบการณ์นั้น การกลับมาเล่นซ้ำในคืนนี้เป็นการแนะนำปัจจัยสำคัญ นั่นคือ ตัวเลือกของผู้เล่น ผู้เล่นเกมมีโอกาสที่จะควบคุมการตัดสินใจของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงเส้นทางของเหตุการณ์ เล่นกับเวลาโดยชุดของการโต้ตอบระหว่างตัวละครที่รอดชีวิต ปลดล็อกเบาะแส ตัวตนของฆาตกร หรือสาเหตุเบื้องหลังการกระทำที่รุนแรงของฆาตกร ตัวเลือกของผู้เล่นในทุกมินิเกมหรือส่วนถามตอบยังมีผลกระทบอย่างมากต่อผลลัพธ์ของเรื่องราว ชะตากรรมของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่ผู้เล่นเกมทำการตัดสินใจและความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ เมื่อค่ำคืนค่อยๆ คลี่คลาย ตัวเลือกที่โชคร้ายส่งผลให้ตัวละครเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองและเริ่มต้นคืนใหม่ แต่ด้วยความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เป็นแนวทางในการตัดสินใจชุดต่อไปของผู้เล่น เมื่อค่ำคืนดำเนินไปและเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายไปด้วยความเร็วสูง ไม่มีอะไรดูเหมือนเป็นปริศนาอีกต่อไป ยกเว้นตัวตนและแรงจูงใจที่แท้จริงของฆาตกร หนึ่งในความตกใจที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดมาจากการเปิดเผยว่าสมาชิกที่ดูอ่อนแอและเปราะบางมีบทบาทสำคัญในการคลี่คลายความลึกลับเกี่ยวกับการหายตัวไปของเมลานีและเหตุผลเบื้องหลังการแก้แค้นของ 'คนแปลกหน้า' การเดินตามเส้นทางการประหารชีวิตอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ไม่คาดฝันและเจ็บปวด แต่ก็สามารถละเว้นผู้รอดชีวิตบางส่วนที่ในที่สุดถูกกำหนดให้เปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของเมลานี โดยเปิดโปงว่าทำไมพวกเขาต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของฆาตกรที่ไม่ย่อท้อในความลึกของค่ำคืนที่สิ้นหวัง นอกเหนือจากเรื่องราวที่หักมุมไปมาแล้ว Unfriend request ยังเป็นตัวแทนที่มีประสิทธิภาพของเรื่องราวสยองขวัญคลาสสิกที่ความกลัวไม่ได้มาจากฉากนองเลือด แต่มาจากความวิตกกังวลทางสังคมและความกลัวที่จะต้องอยู่ในที่แคบๆ ที่น่าสะพรึงกลัว ทุกความระทึกใจและทุกการสลับฉากอย่างรวดเร็วระหว่างฉากที่เข้มข้นทำให้ผู้ชมหวาดกลัว ผิดหวัง หรือหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมที่ไร้ความปราณี
วิจารณ์
Penelope
Giving it four stars! Maybe it's been too long since I've seen a horror movie in theaters, because I jumped at pretty much every scare. Overall, I think it was pretty good. The setup was a little long, though. It would have been amazing if they had shown all 13 loops!
Paola
Feels very video game-y. It borrows heavily from "The Cabin in the Woods," so it's really just a thrill ride.
Roman
Okay, here's an English translation of the review, tailored to fit the tone and content of a Until Dawn style horror movie review: "Masked maniacs, oxygen-tank-toting witches, lumbering giants, suicidal fanatics gulping down poison, and hordes of zombified beasts lurking in bear traps, not to mention the town swallowed by the earth... There's a lot going on, but it doesn't quite hit the fever pitch of the director's previous work like *Annabelle 2*. The game adaptation likely puts constraints on things. Also, those found-footage phone segments? Arguably more compelling than the main feature itself. 'Your knowledge really is power : )' adds a sinister touch."
Brielle
"The thrills are definitely there, with high doses of gore and jump scares. However, the setup and background feel a bit forced and overly convenient, allowing for pretty much any horror element to be thrown in and work. Given that, maybe leaning into horror-comedy territory or getting even more wild could have been more fun. Character development and the ending feel a bit rushed. Overall, it's decent enough in terms of entertainment and immersion."
Knox
The film borrows the horror atmosphere and universe from the game, but it tells a completely new story unrelated to the game itself. It revolves around a group of people going to a remote cabin and being hunted by different mysterious and terrifying creatures, only to be killed and then loop back into this terrifying place, repeatedly slaughtered endlessly. However, judging from the film itself, it achieves its goal of scaring the audience. The movie has pretty good scenes that build a sense of terror and horror, and the scares are varied, involving pursuits, supernatural events, and even a bit of humor from unexpected coughs. I don’t know why, but whenever I watch a horror movie, I always think of James Wan's precise and sharp control over horror. He truly is a master…like
คำแนะนำ
