The Boogeyman

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเหนือเมืองเล็กๆ แห่งโอ๊ควูด ความรู้สึกไม่สบายใจก็ปกคลุมครอบครัวดาร์ซี เป็นเวลาหกเดือนแล้วนับตั้งแต่การสูญเสียอันน่าเศร้าของลิลลี่ผู้เป็นแม่ ปล่อยให้เลสเตอร์ผู้เป็นสามี และลูกสาวสองคน ซาดีและลูซ ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทางอารมณ์จากการจากไปของเธอ สำหรับซาดี เด็กสาววัย 15 ปี มันเหมือนกับว่าความเจ็บปวดได้กลายเป็นพลังที่สัมผัสได้ซึ่งแทรกซึมอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิตเธอ ลูซ น้องสาวคนเล็กของเธอ ที่อายุเพียง 10 ขวบ มีความยืดหยุ่นมากกว่า แต่ก็ยังคงดิ้นรนที่จะเข้าใจถึงการขาดความอบอุ่นและความรักของแม่ ในขณะที่พวกเขาใช้ชีวิตด้วยความเศร้าโศก การปรากฏตัวที่น่ากลัวก็เริ่มปรากฏขึ้นในบ้านของพวกเขา ในตอนแรก มันเป็นเพียงเสียงกระซิบเบาๆ เสียงพื้นไม้กระดานที่ดังเอี๊ยดอ๊าดซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ด้วยการทรุดตัวตามปกติของบ้านเก่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป เหตุการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ในตอนแรก ซาดีสงสัยในการเกิดขึ้นของเหตุการณ์แปลกๆ โดยคิดว่าเป็นเพราะสภาพจิตใจที่เปราะบางของเธอเอง หรือเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตาม ลูซเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีบางสิ่งที่เป็นอันตรายซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืด เฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาด้วยความตั้งใจร้าย เมื่อความกลัวของพี่น้องทวีความรุนแรงขึ้น พวกเขาจึงหันไปหาเลสเตอร์ผู้เป็นพ่อเพื่อขอความ comfort และการปกป้อง แต่เขากลับจมอยู่กับความเศร้าโศกและความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการจากไปของลิลลี่มากเกินกว่าที่จะสังเกตเห็นหรือใส่ใจเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกๆ ในบ้าน เขาเริ่มห่างเหินและเย็นชามากขึ้น ปล่อยให้เด็กผู้หญิงต้องปกป้องตัวเองจากความหวาดกลัวที่มองไม่เห็นที่หลอกหลอนพวกเขา เมื่อโลกของพวกเขากำลังพังทลายลง ซาดีและลูซต้องหาวิธีเผชิญหน้ากับ The Boogeyman โดยตรงและทวงการควบคุมชีวิตของพวกเขากลับคืนมา แต่เมื่อพวกเขาเจาะลึกลงไปในความลึกลับของบ้านผีสิง พวกเขาจะค้นพบว่าความลับบางอย่างปล่อยไว้จะดีกว่า และความสยองขวัญที่แท้จริงอาจไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืด แต่อาจเป็นความมืดที่ซุ่มซ่อนอยู่ภายในตัวพวกเขาเอง